Bitcoin ไร้ผลตอบแทนไม่ใช่ข้อเสีย แต่นักวิเคราะห์ชี้กลับคือจุดแข็งที่ทำให้มั่นคงกว่าการลงทุนอื่น

Bitcoin พลังงานเสถียรกลางเมืองไซเบอร์พังก์อนาคต

นักวิเคราะห์มหภาคชื่อดัง Luke Gromen มองว่า การที่ Bitcoin ไม่มีระบบสร้างผลตอบแทน (Yield) ในตัว ไม่ได้เป็นข้อเสีย แต่กลับทำให้มันมีความปลอดภัยในการเก็บมูลค่ามากกว่า เขาอธิบายว่า “หากคุณได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน แปลว่าคุณกำลังแบกรับความเสี่ยง” ซึ่งคำวิจารณ์ที่บอกว่า Bitcoin ไม่น่าสนใจเพราะไม่มี Yield นั้น สะท้อนถึงสิ่งที่เขาเรียกว่า “Western financial privilege” หรือการมองโลกในแง่ของระบบการเงินตะวันตกที่คนส่วนใหญ่มีทางเลือกการลงทุนมากกว่า

เขายกตัวอย่างกรณีการล่มสลายของ FTX ในปี 2022 ที่นักลงทุนจำนวนมากเลือกนำเงินไป Stake บนแพลตฟอร์มเพื่อหวังผลตอบแทน แต่สุดท้ายกลับสูญเสียเงินทั้งหมด เพราะผลตอบแทนมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ เช่นเดียวกับการฝากเงินในธนาคารที่ดูเหมือนปลอดภัย แต่ความจริงแล้วเงินฝากนั้นถูกนำไปใช้โดยธนาคาร ไม่ใช่การถือครองอย่างแท้จริง

Ethereum กับโมเดล Proof-of-Stake ที่ดึงดูดนักลงทุน

เมื่อเปรียบเทียบกัน Ethereum มักถูกยกขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญ เนื่องจากระบบ Proof-of-Stake (PoS) เปิดโอกาสให้ผู้ถือ ETH ได้รับผลตอบแทนจากการนำเหรียญไป Stake คล้ายกับการฝากเงินในธนาคารที่ได้รับดอกเบี้ย ทั้งยังช่วยเสริมความมั่นคงของเครือข่ายผ่าน Validator ด้วย

Nassar Achkar ประธานฝ่ายกลยุทธ์ของ CoinW เปิดเผยว่า สถาบันการเงินจำนวนมากเริ่มจัดสรรสินทรัพย์สำรองเข้ามาใน ETH มากขึ้น เพราะเห็นศักยภาพด้านการสร้าง Yield และการเชื่อมโยงกับโลกของการโทเค็นไอเซชัน ปัจจุบันมีบริษัทมหาชนที่ถือ ETH อยู่ราว 4.13% ของอุปทานรวม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 23,000 ล้านดอลลาร์ จากข้อมูลของ StrategicETHReserve ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในระบบ Proof-of-Stake และทำให้ Ethereum ถูกมองว่าเป็นหนึ่งใน เหรียญ Altcoin ยอดนิยม ที่นักลงทุนสถาบันเข้ามาจับตามองอย่างจริงจัง

เหตุผลที่ Bitcoin ยังคงเป็นตัวเลือกสำคัญ

แม้ Bitcoin จะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างผลตอบแทนโดยตรง แต่ก็ยังเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสูงในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ การควบคุมของรัฐบาล และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ จนถูกขนานนามว่าเป็น “ทองคำดิจิทัล” ปัจจุบันมีมูลค่าการถือครองโดยกองทุนและบริษัทต่างๆ มากกว่า 119,000 ล้านดอลลาร์

แม้ไม่มีระบบ Staking ในตัว แต่ผู้ถือ Bitcoin ก็ยังสามารถสร้างรายได้จากทางเลือกอื่น เช่น การปล่อยกู้ผ่านแพลตฟอร์ม CeFi, การใช้ Wrapped Bitcoin บน Ethereum หรือแม้แต่เครือข่ายที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับ BTC โดยเฉพาะอย่าง Babylon และ Stacks สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าความต้องการในตลาดยังคงแข็งแกร่ง และยังทำให้ Bitcoin เป็นหนึ่งใน เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025

ในอีกมุมหนึ่ง เสียงวิเคราะห์จาก ผู้ร่วมก่อตั้ง Fundstrat ชี้ Bitcoin และ Ethereum เตรียมเข้าสู่รอบใหม่ ก็ช่วยเสริมมุมมองว่าตลาดคริปโตยังไม่หมดพลัง และกำลังเข้าสู่ช่วงการสะสมรอบใหญ่ที่จะปูทางไปสู่การเติบโตในอนาคต

Best Wallet: กระเป๋าคริปโตที่เตรียมรับประโยชน์จากรอบใหม่ของ Bitcoin และ Ethereum

นักวิเคราะห์ชี้ว่า Bitcoin และ Ethereum กำลังเข้าสู่รอบใหม่ของการเติบโต นักลงทุนจึงเริ่มมองหาแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและครบวงจรในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่ง Best Wallet โดดเด่นด้วยความเป็นกระเป๋าเงินคริปโตแบบ non-custodial ที่ผสานทั้งการเก็บเหรียญและการลงทุนไว้ในที่เดียว

Best Wallet ไม่ได้เป็นเพียงกระเป๋า Bitcoin แต่ยังรองรับกว่า 1,000 เหรียญ รวมทั้ง Ethereum, Solana และอีกหลายเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการพอร์ตได้สะดวกยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีฟีเจอร์ Presale Launchpad ที่เปิดทางให้เข้าถึงโครงการใหม่ก่อนใคร สอดรับกระแสการลงทุนที่กำลังคึกคักในปีนี้

จุดแข็งอีกอย่างคือ โทเค็น BEST ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์ ทั้งค่าธรรมเนียมที่ถูกลง สิทธิ์การโหวต และรางวัลจากการ Stake ที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 83% APY ทำให้ Best Wallet ไม่เพียงตอบโจทย์ความปลอดภัย แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่จะได้อานิสงส์โดยตรงจากกระแสการฟื้นตัวของตลาดคริปโตในรอบใหม่นี้

ดาวน์โหลดแอพ Best Wallet

Exit mobile version