HYPER ดึงเม็ดเงินทะลัก! ระดมทุนแตะ 29.5 ล้านฯ ลุยปลดล็อกศักยภาพ Bitcoin

HYPER ดึงเม็ดเงินทะลัก! ระดมทุนแตะ 29.5 ล้านฯ ลุยปลดล็อกศักยภาพ Bitcoin

Bitcoin Hyper (HYPER) ระดมทุนรอบพรีเซลล์ได้แล้วกว่า 29.5 ล้านดอลลาร์ โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่มองว่าอนาคตของ Bitcoin อาจไม่ได้อยู่บนตัว Bitcoin เอง แต่เป็นระบบนอกเชนที่สามารถขยายขีดความสามารถได้อย่างแท้จริง

ขณะที่ราคา Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์อีกครั้ง จุดอ่อนสำคัญของสินทรัพย์ดิจิทัลเบอร์หนึ่งอย่าง BTC ก็เริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ การเติบโตที่ยังผูกกับ “ความเชื่อ” มากกว่าการใช้งานจริง Bitcoin Hyper จึงถูกออกแบบมาเพื่อ “ปลดล็อก” ศักยภาพของ Bitcoin ให้สามารถหมุนเวียนและใช้งานในวงกว้างได้ โดยไม่ต้องเข้าไปยุ่งกับโครงสร้างของ Bitcoin ดั้งเดิม

แนวคิดหลักของ Hyper คือไม่พยายามอัปเกรด Bitcoin โดยตรง แต่สร้างโครงสร้างพื้นฐานเสริมรอบๆ เพื่อให้ Bitcoin ยังคงทำหน้าที่เป็นระบบชำระบัญชีขั้นสุดท้าย ขณะที่การประมวลผลธุรกรรมและการใช้งานในชีวิตจริงจะเกิดขึ้นในระบบที่เร็วกว่าและยืดหยุ่นกว่า

ด้วยแนวทางนี้ นักลงทุนจึงเริ่มสะสมเหรียญ HYPER ซึ่งเป็นโทเคนหลักในระบบเศรษฐกิจใหม่นี้ โดยมองว่า HYPER อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยน Bitcoin จากสินทรัพย์นิ่งๆ ไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่มีการเคลื่อนไหวอย่างแท้จริง

ปัจจุบัน HYPER มีราคาอยู่ที่ 0.013425 ดอลลาร์ต่อเหรียญ โดยจะคงราคานี้ไว้อีกเพียง 5 ชั่วโมงก่อนจะเข้าสู่รอบระดมทุนถัดไป

แรงเทขายท้าทาย Bitcoin ระดับหกหลัก! ตลาดเริ่มตั้งคำถามใหญ่

แม้ปี 2025 จะถูกจดจำในฐานะปีที่ Bitcoin สามารถทะลุระดับ “หกหลัก” ได้เป็นครั้งแรกอย่างชัดเจน แต่แรงเทขายล่าสุดก็ทำให้คำถามสำคัญกลับมาอีกครั้งว่า เพียงแค่ความเป็น “สินทรัพย์เก็บมูลค่า” จะยังเพียงพอหรือไม่ในการผลักดันราคาขึ้นไปอีก

ประเด็นนี้เริ่มส่งแรงสะเทือนไปยังตลาดการเงินดั้งเดิมด้วย โดยกองทุน Strategy ซึ่งมีสัดส่วนการถือ Bitcoin สูง กำลังเผชิญแรงกดดันจากผู้จัดทำดัชนีอย่าง MSCI ที่กำลังพิจารณาว่าการมี Bitcoin มากเกินไปนั้น ยังสมควรอยู่ในดัชนีหลักหรือไม่

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan เตือนว่า หาก Strategy ถูกถอดออกจากดัชนี อาจนำไปสู่การไหลออกของเงินลงทุนแบบ Passive มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นของ Strategy เองก็ดิ่งลงแรงกว่าราคา Bitcoin เสียอีก โดยเริ่มซื้อขายใกล้เคียงกับมูลค่า BTC ที่ถือครอง มากกว่าราคาที่เคยพุ่งขึ้นจากกลยุทธ์ด้านคลังสินทรัพย์ที่เคยได้รับการยกย่อง

แม้การมีอุปทานจำกัดจะเคยเป็นจุดแข็งของ Bitcoin แต่อาจไม่เพียงพออีกต่อไป หากต้องการยืนเหนือระดับหกหลักอย่างยั่งยืน เครือข่าย Bitcoin จำเป็นต้องมีแรงขับเคลื่อนใหม่จากการใช้งานจริง

ในระดับโครงสร้าง Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เรียบง่าย มีความปลอดภัยสูง และยากต่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อทำหน้าที่เป็นระบบชำระบัญชีที่เป็นกลางและตรวจสอบได้ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้เครือข่ายอยู่รอดมาได้กว่าทศวรรษโดยไม่ถูกเจาะหรือดัดแปลง

แต่แนวทางนี้เองก็เป็นข้อจำกัดเช่นกัน เพราะหากตัวแกนหลักของ Bitcoin ต้องคงความเรียบง่ายไว้ การทำธุรกรรมหรือใช้งานเชิงซับซ้อนก็ต้องเกิดขึ้นที่อื่น

และนั่นคือบทบาทของ Bitcoin Hyper ที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ โดยแยกกระบวนการประมวลผลธุรกรรมไปยังสภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาเฉพาะ ขณะที่ Bitcoin ยังคงเป็นชั้นสุดท้ายของการตรวจสอบความถูกต้องในเครือข่าย

Bitcoin ไม่ซับซ้อน แต่ทรงพลัง! เปิดแนวคิดการออกแบบอันแข็งแกร่ง

Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นระบบการเงินที่ไม่อาจถูกควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงโดยรัฐบาล บริษัท หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ระบบจึงต้องแข็งแกร่งโดยโครงสร้าง แม้ต้องแลกกับความเร็วหรือความยืดหยุ่น

หัวใจของความมั่นคงนี้อยู่ที่การใช้เทคโนโลยีที่เรียบง่ายอย่าง SHA-256 ซึ่งเป็นฟังก์ชันเข้ารหัสแบบทางเดียวที่อาจดูธรรมดา แต่ให้ความปลอดภัยในระดับสูงสุด มันสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ทันที แต่ไม่สามารถย้อนกลับข้อมูลได้ ซึ่งความไม่สมมาตรนี้เองที่กลายเป็นรากฐานของความปลอดภัยในระบบ Bitcoin

หากจะเปรียบเทียบ Bitcoin ก็เหมือน “ชั้นหินแข็ง” ที่ไม่ควรเจาะทำอุโมงค์ทุกครั้งที่ต้องการสร้างสิ่งใหม่ แต่ควรเป็นพื้นฐานให้สร้างสิ่งต่างๆ อยู่ข้างบน ความมั่นคงของชั้นฐานนี่แหละที่ทำให้สิ่งที่อยู่เหนือมันมีคุณค่า

ตามแนวคิดนี้ Bitcoin จึงถูกออกแบบให้มีโครงสร้างที่เรียบง่าย มีการเปลี่ยนแปลงน้อย และโปร่งใสตั้งแต่แรก เพื่อให้ใครก็สามารถตรวจสอบได้โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบซับซ้อน นี่คือเหตุผลที่เครือข่าย Bitcoin ยังคงเป็นระบบที่ปลอดภัยและกระจายศูนย์มากที่สุดในโลกคริปโต

แต่ถึงอย่างนั้น “หินแข็ง” ก็ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นฐานให้ต่อยอด ฟีเจอร์ขั้นสูงทั้งหลายไม่เคยถูกออกแบบมาให้ดำเนินการบนเลเยอร์หลักของ Bitcoin และหากฝืนทำ ก็เท่ากับทำลายจุดแข็งของระบบไปโดยไม่จำเป็น

นี่คือเหตุผลที่ Bitcoin Hyper ถูกสร้างขึ้นมา โดยเพิ่มเลเยอร์ใหม่ที่อยู่เหนือ Bitcoin เพื่อรองรับการใช้งานเชิงซับซ้อน โดยไม่ไปยุ่งกับโครงสร้างดั้งเดิมของเครือข่าย

เลเยอร์ใหม่นี้ขับเคลื่อนด้วย Solana Virtual Machine (SVM) ซึ่งช่วยแยกกระบวนการประมวลผลออกจากเลเยอร์ที่ช้าและหนักของ Bitcoin แล้วโยกเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาเพื่อความเร็วและการขยายตัวโดยเฉพาะ เป็นพื้นที่ที่ธุรกรรมรวดเร็วและต้นทุนต่ำ ความซับซ้อนไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป

สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่แค่แอปพลิเคชันแบบผสม แต่เป็นการเปลี่ยนโครงสร้างโดยสิ้นเชิง Bitcoin จะไม่ใช่สินทรัพย์ที่อยู่เฉยๆ อีกต่อไป แต่จะไหลผ่านโลกของ DeFi เกม และกิจกรรมเศรษฐกิจจริงได้ในความเร็วระดับ Solana ขณะที่การยืนยันสุดท้ายยังคงอิงกับเครือข่าย Bitcoin ที่ไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดระบบที่ทั้งเร็วบนผิว และมั่นคงในแก่นแท้

เมื่อ BTC ต้องการปีก! HYPER เข้ามาติดอาวุธให้นักลงทุนยุคใหม่

Bitcoin Hyper ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มสิ่งที่ Bitcoin ยังไม่สามารถทำได้ในระดับมหภาค นั่นคือ การทำให้ BTC ถูกใช้งานจริงในระบบเศรษฐกิจประจำวัน โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเครือข่ายหลักของ Bitcoin แต่อย่างใด ภายในระบบของ Hyper แอปพลิเคชันต่างๆ จะรองรับ Bitcoin ในฐานะสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานจำเป็นต้องถือครอง BTC เพื่อใช้งานบริการต่างๆ

นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะเมื่อแอปฯ ต้องการ BTC ในการทำงาน ความต้องการใช้งาน Bitcoin ก็จะไม่ได้พึ่งพาเพียงแรงเก็งกำไรหรือปัจจัยมหภาคอีกต่อไป แต่จะมี “ความต้องการเชิงโครงสร้าง” เข้ามาเสริม Bitcoin จะไม่ใช่เพียงสินทรัพย์ที่ถูกพักรอในกระเป๋า แต่กลายเป็นเงินที่เคลื่อนไหวในระบบเศรษฐกิจจริง

อย่างไรก็ตาม Bitcoin Hyper ไม่ได้เพียงแค่เปิดทางให้ BTC มีบทบาทใหม่ แต่ยังวางรากฐานของ “เศรษฐกิจอีกครึ่งหนึ่ง” ที่ผู้เชื่อใน Bitcoin รุ่นแรกเคยวาดฝันไว้ โดยเลเยอร์ประมวลผลใหม่นี้ต้องใช้พลังงานในการขับเคลื่อน และบทบาทนั้นก็ตกเป็นของโทเคน HYPER

HYPER ทำหน้าที่เป็นโทเคนหลักของระบบ ทั้งในฐานะค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรม (gas token) สินทรัพย์ที่ใช้ในการสเตกเพื่อรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย และยังเป็นโทเคนกำกับดูแลทิศทางของระบบในระยะยาว กล่าวได้ว่า HYPER คือสินทรัพย์ที่สะท้อนการเติบโตของกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของ Bitcoin

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เงินทุนกว่า 29.5 ล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่รอบพรีเซลล์ของ HYPER เพราะนักลงทุนจำนวนมากกำลังวางเดิมพันระยะยาวกับโครงสร้างที่พวกเขาเชื่อว่า Bitcoin จะต้องมี หากต้องการเติบโตต่อไป

ณ ราคาพรีเซลล์ปัจจุบันที่ 0.013425 ดอลลาร์ต่อเหรียญ นักลงทุนหลายรายยังมองว่า มูลค่านี้สะท้อนความเสี่ยงของโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้น มากกว่ามูลค่าที่แท้จริงของระบบเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น

แนะวิธีซื้อ HYPER ฉบับมือใหม่! เตรียมรับเหรียญก่อนราคาขยับ

หากต้องการซื้อ HYPER สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper แล้วเลือกชำระเงินด้วยสกุลคริปโตที่รองรับ เช่น SOL, ETH, USDT, USDC, BNB หรือแม้แต่บัตรเครดิตก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

ทาง Bitcoin Hyper แนะนำให้ใช้ Best Wallet ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีฟีเจอร์ครบครัน รองรับทั้งคริปโตและ Bitcoin โดยในขณะนี้ HYPER ได้ปรากฏอยู่ในหมวด Upcoming Tokens ของ Best Wallet แล้ว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามราคา ซื้อ และรับเหรียญได้สะดวกทันทีเมื่อระบบเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ

สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามข่าวสารหรือร่วมพูดคุยกับชุมชน สามารถเข้าร่วมได้ผ่าน Telegram และ X (Twitter) ของโครงการ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Bitcoin Hyper

ไปยัง Bitcoin Hyper

Exit mobile version