กราฟราคา Bitcoin ล่าสุดเริ่มส่งสัญญาณที่น่าจับตา เมื่อรูปแบบ Head and Shoulders เริ่มก่อตัวอย่างชัดเจน พร้อมกับการปรากฏของ Fair Value Gap (FVG) ที่ยังไม่ได้ถูกปิด ซึ่งถือเป็นช่องว่างด้านสภาพคล่องที่มักจะดึงดูดแรงซื้อกลับเข้ามา หากช่องว่างนี้ถูกเติมเต็ม ราคามีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นในสัปดาห์ถัดไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องไม่มองข้ามคือแรงต้านสำคัญที่สะสมอยู่เหนือระดับดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงเทขายอย่างรุนแรงในภายหลังได้เช่นกัน
Fair Value Gap ที่ระดับ $114,000 กำลังเป็นจุดโฟกัส
นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง Xanrox เปิดเผยว่าหลังการร่วงลงรอบล่าสุด ทำให้เกิด Fair Value Gap เหนือระดับ $114,000 โดยช่องว่างนี้ถือเป็นพื้นที่สำคัญที่จะดึงเม็ดเงินใหม่เข้ามาเติมสภาพคล่อง และอาจทำให้ราคาไต่ขึ้นไปทดสอบบริเวณดังกล่าวได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ก็จะสอดคล้องกับการที่ BTC จ่อทดสอบ ATH อีกครั้ง หลังฟื้นตัวขึ้นมาเหนือระดับ $113,000 ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม จุด $114,000 ไม่ได้มีเพียงแรงซื้อรออยู่ แต่ยังเต็มไปด้วยคำสั่ง Stop Loss ของนักเทรดจำนวนมาก นั่นทำให้เหล่าวาฬอาจใช้จังหวะนี้กวาดสภาพคล่องก่อนที่จะกดราคาลงมาอีกครั้ง หากราคาถูกดันไปถึงจุดดังกล่าว ความเสี่ยงที่จะเกิดแรงขายก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
สัญญาณเตือน Crash กำลังใกล้เข้ามา
เมื่อ Fair Value Gap ถูกปิด ราคามีโอกาสเข้าสู่ช่วงขาลงอีกระลอกตามแบบแผนของ Head and Shoulders โดย Xanrox คาดการณ์ว่าหากแรงซื้อหมดไป อาจทำให้ Bitcoin ร่วงทะลุแนวรับ $108,000 และอาจลงลึกไปถึงโซน $106,000 ก่อนที่จะหาจุด Bottom ใหม่ได้ ความเป็นไปได้นี้ยิ่งสูงขึ้นเมื่อพิจารณาจากข้อมูลสถิติที่ระบุว่าเดือนกันยายนมักเป็นเดือนที่ Bitcoin ทำผลงานได้แย่ที่สุด ทั้งในตลาดคริปโตและตลาดหุ้น
แม้ภาพรวมระยะสั้นจะมีความเสี่ยง แต่ในมุมมองการลงทุนระยะกลางถึงยาว Bitcoin ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่นักลงทุนสถาบันและบริษัทมหาชนให้ความสนใจ ปัจจุบันมีรายงานว่าบริษัทมหาชนกว่า 100 แห่ง สะสม Bitcoin รวมทะลุ 1 ล้านเหรียญ แล้ว ซึ่งตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับหนึ่งของโลก
ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนที่มองหาโอกาสในตลาดปีหน้าอาจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะแม้จะมีโอกาสเกิดการปรับฐาน แต่ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว Bitcoin ยังคงถูกจัดอยู่ในกลุ่ม เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025 อย่างไม่ต้องสงสัย
Bitcoin Hyper ดาวรุ่ง Layer-2 ที่กำลังเขย่าตลาดคริปโต
ในขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่า Bitcoin อาจเจอแรงเทขายหลังปิด Fair Value Gap ที่ $114,000 โปรเจกต์อย่าง Bitcoin Hyper กลับถูกมองว่าอาจได้ประโยชน์โดยตรง เนื่องจากโครงสร้าง Layer-2 ที่สร้างบน Bitcoin และขับเคลื่อนด้วย Solana Virtual Machine (SVM) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม และเปิดทางให้ผู้ถือ BTC เข้าสู่โลก DeFi ได้อย่างแท้จริง นี่คือจุดที่ทำให้มันแตกต่างจากกระแส เหรียญมีมมาแรง ที่มักอาศัยเพียงกระแสชั่วคราว
หากราคาของ Bitcoin ฟื้นตัวได้ตามที่นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่าจะพุ่งแตะ $180,000–$250,000 ภายในสิ้นปี ความต้องการใช้ Layer-2 ที่ช่วยเพิ่มการใช้งานและสภาพคล่องจะสูงขึ้นทันที ซึ่ง Bitcoin Hyper มีจุดเด่นทั้งเรื่องการประมวลผลแบบขนานและค่าธรรมเนียมต่ำ จึงมีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นโครงสร้างสำคัญในระบบนิเวศของ Bitcoin เมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น
ด้วยการระดมทุน Presale ที่ทะลุ $13 ล้าน และมีศักยภาพสร้างผลตอบแทนสูงกว่า 25 เท่าเมื่อเปิดตัวในตลาดปลายปี 2025 ทำให้ Bitcoin Hyper ถูกจับตามองว่าเป็นหนึ่งใน เหรียญ Presale ที่น่าสนใจ ที่สุดของปี นักลงทุนที่กำลังมองหาตัวเลือกท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาด อาจพบว่า Bitcoin Hyper เป็นสะพานเชื่อมระหว่างความมั่นคงของ Bitcoin และโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดดในโลก DeFi