แม้ราคา Bitcoin จะมีการย่อตัวลงกว่า 10% จากจุดสูงสุดตลอดกาล (ATH) แต่ Maximiliaan Michielsen นักวิเคราะห์จาก 21Shares ชี้ว่านี่อาจเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อ Bitcoin เนื่องจากแนวโน้มขาขึ้นในภาพใหญ่ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากการที่นักลงทุนสถาบันกำลังเข้าซื้อ Bitcoin ในปริมาณที่มากกว่าที่นักขุดสามารถผลิตได้ถึง 6 เท่า ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลดลงของราคาในระยะสั้นก็ได้สร้างความกังวลในหมู่นักลงทุนบางส่วน ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนของตลาดหมีที่กำลังจะมาถึง แต่ในมุมมองของ Michielsen ปรากฏการณ์นี้กลับเป็นโอกาสในการลงทุนมากกว่า
เปิดข้อมูล! สถาบันแห่ซื้อ Bitcoin มากกว่าที่ขุดได้ 6 เท่า
ข้อมูลจาก 21Shares เผยให้เห็นปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งนับตั้งแต่การอนุมัติ Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมกราคม 2024 โดยมีเงินทุนมากกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่ผลิตภัณฑ์การลงทุนสำหรับสถาบัน ซึ่งปริมาณการซื้อนี้สูงกว่าปริมาณ Bitcoin ที่นักขุดผลิตได้ถึง 6 เท่า ทำให้เกิดภาวะอุปทานไม่สมดุลกับอุปสงค์อย่างรุนแรง
Maximiliaan Michielsen อธิบายว่า “ด้วยปริมาณการซื้อจากบริษัท, กองทุน และรัฐบาลที่มากกว่าปริมาณการขุดถึง 6 เท่า ทำให้แรงกดดันด้านการซื้อยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อการปรับฐานของราคาให้น้อยลง” ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความผันผวนของราคา Bitcoin แต่ยังกำลังเปลี่ยนโฉมโครงสร้างของตลาดคริปโตไปอย่างสิ้นเชิง จากสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรสู่สินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ในพอร์ตของสถาบัน
ตลาด Bitcoin เติบโตขึ้น? 91% ของนักลงทุนยังไม่เทขาย
สัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งในตลาดคือ ปัจจุบันมีผู้ถือ Bitcoin ประมาณ 91% ที่ยังคงมีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Profit) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแม้ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก แต่ผู้ถือส่วนใหญ่ยังไม่มีความต้องการที่จะขายสินทรัพย์ออกไป Michielsen กล่าวว่า “นักลงทุนดูมีความเชื่อมั่นมากขึ้นและใช้อารมณ์น้อยลง ‘มือแข็ง’ (Strong Hands) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในวัฏจักรนี้” ขณะเดียวกัน ก็มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับแรงเทขายจากผู้ถือ Bitcoin ระยะยาวบางส่วน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่นักลงทุนต้องจับตามอง
ในวัฏจักรที่ผ่านมา เมื่อราคา Bitcoin เข้าใกล้จุดสูงสุดมักจะเกิดแรงเทขายทำกำไรอย่างหนักตามมาด้วยการปรับฐานที่รุนแรง (มากกว่า 50%) แต่ในปัจจุบัน ตลาดมีความสมดุลมากขึ้น การปรับฐานโดยเฉลี่ยในรอบนี้ลดลงเหลือไม่ถึง 30% และทุกครั้งที่มีการย่อตัวของราคา ก็จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนของการดูดซับอุปทานโดยสถาบันการเงิน
Michielsen เสริมว่า “เรากำลังเห็นตลาดที่มีวุฒิภาวะมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การปรับตัวลดลงของราคายังคงเกิดขึ้น แต่มีขนาดเล็กลงและใช้เวลาน้อยลง โปรไฟล์ของผู้ซื้อในปัจจุบันแตกต่างออกไป เป็นการจัดสรรสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่การเดิมพันระยะสั้น”
วิเคราะห์ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ของพอร์ตโฟลิโอ
รายงานของ 21Shares ยังชี้ให้เห็นว่า การจัดสรรพอร์ตการลงทุนเพียง 5% ใน Bitcoin สามารถช่วยปรับปรุงผลตอบแทนที่ปรับด้วยความเสี่ยง (Risk-Adjusted Return) ของพอร์ตการลงทุนแบบดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี จากการเปรียบเทียบพอร์ตแบบ 60/40 (หุ้น 60%, ตราสารหนี้ 40%) กับพอร์ตที่มีการลงทุนในคริปโต พบว่าในช่วงเวลาที่ตลาดเผชิญกับความตึงเครียด พอร์ตที่มี Bitcoin สามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่า โดยใช้เวลาเพียง 17 วัน เทียบกับ 22 วันของพอร์ตแบบดั้งเดิม
Michielsen เน้นย้ำว่า “เวลาในตลาดสำคัญกว่าการจับจังหวะตลาด แม้แต่คนที่ซื้อ Bitcoin ในช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของแต่ละปีนับตั้งแต่ปี 2020 ก็ยังสามารถทำกำไรได้มากกว่าสองเท่า” ข้อมูลนี้ตอกย้ำว่านักลงทุนไม่ควรพยายามคาดเดาจุดสูงสุดหรือต่ำสุด แต่ควรมุ่งเน้นไปที่การลงทุนอย่างสม่ำเสมอในสินทรัพย์ที่มีความยืดหยุ่นและถูกผนวกรวมเข้ากับระบบการเงินโลกมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาสรุปว่า “ปัจจัยพื้นฐานของ Bitcoin ไม่เคยแข็งแกร่งเท่านี้มาก่อน แม้แต่นักลงทุนที่โชคไม่ดีที่สุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาก็ยังทำเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ความผันผวนกำลังลดลง สภาพคล่องกำลังเพิ่มขึ้น และการบูรณาการเข้ากับระบบการเงินเป็นสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้แล้ว”
นอกเหนือจากการลงทุนในสินทรัพย์หลักอย่าง Bitcoin แล้ว นักลงทุนจำนวนมากยังมองหาโอกาสการเติบโตในตลาด Altcoin โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหรียญคริปโตต้นน้ำที่น่าจับตามองในปี 2025 ซึ่งอาจมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะเริ่มต้น
Bitcoin Hyper ปฏิวัติศักยภาพ Bitcoin สู่ยุคใหม่ของ DeFi และ Layer-2 ความเร็วสูง
Bitcoin กำลังเป็นที่จับตาในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัลที่อาจสร้างสถิติราคาสูงสุดใหม่ และ **Bitcoin Hyper ($HYPER)** ก็กำลังเข้ามาตอบโจทย์นี้ในฐานะ Layer-2 ที่ทำงานบน Solana Virtual Machine (SVM) ซึ่งช่วยยกระดับความสามารถของ Bitcoin จากสินทรัพย์เก็บมูลค่า สู่เครือข่ายที่รองรับ DeFi, dApps และ Meme Culture ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับกระแสความนิยมในเหรียญมีมที่น่าลงทุนและกำลังมาแรงในปัจจุบัน โครงการนี้ได้รับแรงสนับสนุนอย่างมากจากนักลงทุนทั่วโลก ด้วยยอดกว่า 24.3 ล้านดอลลาร์
Bitcoin Hyper แก้ข้อจำกัดหลักของ Bitcoin เดิม ทั้งเรื่องความเร็ว ค่าธรรมเนียม และความยืดหยุ่นในการพัฒนา โดยรองรับการประมวลผลหลายหมื่นธุรกรรมต่อวินาที ด้วยค่าธรรมเนียมเฉลี่ยต่ำกว่า 0.001 ดอลลาร์ พร้อมเทคโนโลยี Zero-Knowledge Proof (ZKP) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ยังรองรับการสร้าง Meme Coin, การใช้งาน DeFi ด้วย BTC, Micropayment, GameFi และ NFT ผ่านระบบ Cross-Chain Bridge ที่เชื่อม Ethereum และ Solana ได้ตั้งแต่วันแรก
โครงการ Bitcoin Hyper โดดเด่นด้วยโครงสร้าง Presale ที่โปร่งใส เปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เหรียญ $HYPER มีประโยชน์ใช้สอยจริง ทั้งเป็นค่า Gas, รางวัล Staking และ Governance Token ที่เปิดให้ผู้ถือมีส่วนร่วมในการบริหารระบบนิเวศ การเชื่อมต่อ BTC เข้ากับ Layer-2 ยังช่วยขยายศักยภาพของ Bitcoin ให้เข้าถึงโลก DeFi และ GameFi ได้อย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ Bitcoin Hyper กลายเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่มีศักยภาพเติบโตสูงที่สุดในตลาด Altcoin ที่กำลังร้อนแรงในปี 2025
ก่อนตัดสินใจเกี่ยวกับ Bitcoin Hyper ขอแนะนำให้อ่าน บทวิเคราะห์ราคา Bitcoin Hyper หรือศึกษาวิธีซื้อ Bitcoin Hyper ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพื่อทำความเข้าใจโอกาสให้ชัดเจน
สำรวจเนื้อหาเชิงกลยุทธ์ใน เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper พร้อมติดตามเสียงจากชุมชนบน X และ ช่อง Telegram