เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2025 ที่ผ่านมา โปรเจกต์ Bitcoin Hyper (HYPER) ซึ่งเป็นเลเยอร์ 2 บนเครือข่าย Bitcoin ที่ได้ชื่อว่าเร็วที่สุดในตลาด ได้ทำสถิติระดมทุนทะลุ 23 ล้านดอลลาร์ในรอบ Presale โดยใช้เวลาเพียง 3 วันในการขยับจาก 22 ล้านดอลลาร์ เป็น 23 ล้านดอลลาร์
แรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการเข้าซื้อของนักลงทุนรายใหญ่ (Whales) ที่อัดเงินกว่า 3.3 ล้านดอลลาร์ภายในหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่นักลงทุนรายย่อยจะเริ่มทยอยเข้ามาเสริมแรงซื้อในช่วงท้ายรอบ สะท้อนพฤติกรรมแบบเดียวกับที่นักลงทุนรายใหญ่เคยทำไว้ในรอบก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน การเติบโตของ HYPER ยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เรียกว่า “debasement trade” ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงสินทรัพย์ที่ผูกกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ และปริมาณหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเวลานี้ ราคาทองคำพุ่งทะลุ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดรายวัน ขณะที่ Bitcoin ก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในฐานะ “ทองคำดิจิทัล”
ในบริบทนี้ Bitcoin Hyper จึงถูกมองว่าเป็นโอกาสใหม่ระดับพันล้านดอลลาร์ ที่จะช่วยผลักดันการใช้งาน Bitcoin ทั้งในฐานะสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนและทรัพย์สินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินที่อ่อนตัวลง
นอกจากกระแสในเชิงมหภาคแล้ว โครงการยังได้รับความสนใจจากความสามารถทางเทคนิค โดย Bitcoin Hyper พัฒนาแพลตฟอร์มที่เน้นความเร็ว ความปลอดภัย และการรองรับการใช้งานขนาดใหญ่ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชันไฮบริดภายในระบบนิเวศของตัวเอง
รอบการขาย Presale ปัจจุบันยังคงเปิดอยู่ โดยเหลือเวลาอีกเพียง 28 ชั่วโมงก่อนที่ราคาจะปรับขึ้นจากระดับ 0.013095 ดอลลาร์ต่อโทเคน
เงินทุนทะลัก! กระแส Whale ดึงรายย่อยเข้าสะสม HYPER อย่างคึกคัก
นับตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา หรือราว 11 วันที่แล้ว Bitcoin Hyper สามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้อีกประมาณ 4.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเม็ดเงินก้อนใหญ่ในรอบนี้มาจากกระเป๋าเงินของนักลงทุนรายใหญ่ (whale) ที่เข้าซื้อโทเคน HYPER จำนวนกว่า 62.2 ล้านโทเคน คิดเป็นมูลค่าราว 833,000 ดอลลาร์ในช่วงเวลานั้น หรือเกือบ 19% ของยอดระดมทุนทั้งหมดในรอบเวลาดังกล่าว
นักลงทุนรายใหญ่รายนี้เริ่มสะสมโทเคนตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยซื้อครั้งแรกที่ 42.2 ล้านโทเคน และตามด้วยอีก 20 ล้านโทเคนในวันจันทร์
หลังจากการเคลื่อนไหวของ whale รายนี้ กระแสความสนใจจึงไหลไปยังกลุ่มนักลงทุนรายย่อย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันยอดระดมทุนให้เพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านดอลลาร์ระหว่างวันอังคารถึงวันศุกร์ โดยนักลงทุนจำนวนมากดูเหมือนจะใช้การเข้าซื้อของ whale เป็นสัญญาณการเคลื่อนไหวของ “smart money” หรือเงินทุนที่มีข้อมูลเชิงลึกและมักขยับตัวก่อนตลาด
เรื่องนี้ไม่ใช่ข้อสรุปที่เกินจริงนัก เพราะโดยทั่วไป นักลงทุนทุนหนามักเข้าถึงข้อมูลเชิงกลยุทธ์ก่อนรายย่อยเสมอ ดังนั้นเมื่อเห็นการเข้าซื้ออย่างแข็งแกร่งจากรายใหญ่ — ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่มีสินทรัพย์สูง หรืออาจเป็นฝ่ายลงทุนของสถาบัน — รายย่อยก็มักจะรีบเข้าตาม
ข้อได้เปรียบของนักลงทุนรายย่อยในรอบนี้คือ พวกเขายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของโครงการ สามารถเข้าถือโทเคนในราคาเดียวกับที่นักลงทุนรายใหญ่ซื้อไว้ และมีโอกาสล็อกจำนวนโทเคนไว้ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วง Token Generation Event (TGE)
HYPER เปิดประตูใช้งาน BTC จริงจัง จ่อหนุนราคาพุ่งในอนาคต
นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเริ่มมองว่า Bitcoin Hyper อาจกลายเป็นกลไกใหม่ในการสร้างความต้องการให้กับ Bitcoin ซึ่งสามารถส่งผลเชิงบวกต่อราคาของ BTC ในระยะยาว
หัวใจของแนวคิดนี้คือการทำให้ BTC สามารถใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้นภายในระบบนิเวศที่สร้างบน Solana Virtual Machine (SVM) โดยโครงสร้างของเครือข่ายนี้รองรับเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา เช่น SDK ที่เขียนด้วยภาษา Rust และ API ที่ช่วยให้สามารถพัฒนาและเปิดตัวแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้งานในวงกว้าง
ในแง่กระบวนการ สำหรับผู้ที่ติดตามรอบ Presale จะคุ้นเคยอยู่แล้วว่า BTC จะถูกนำมาเชื่อมเข้าสู่เครือข่าย Bitcoin Hyper ผ่านกระบวนการ bridge ก่อนจะแปลงเป็นโทเคนแบบ wrapped ซึ่งกลายเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนหลักภายในเครือข่าย
แอปพลิเคชันในระบบเหล่านี้ถูกเรียกว่า “แอปไฮบริด” เพราะรวมจุดเด่นของ SVM ด้านความเร็วและการขยายระบบ เข้ากับความมั่นคงปลอดภัยและการกระจายศูนย์แบบของ Bitcoin โดยแม้จะทำงานอยู่ในระบบที่ประมวลผลได้รวดเร็ว แต่ธุรกรรมยังคงอิงกับ BTC บนเชนหลัก ทำให้ทุกการดำเนินการผูกโยงอยู่กับเลเยอร์ความเชื่อมั่นของ Bitcoin
โครงสร้างแบบนี้สร้างแรงขับเคลื่อนความต้องการ BTC ในเชิงกลไกที่ชัดเจนขึ้น กล่าวคือ เมื่อ BTC ถูกนำมาเก็บไว้ใน Canonical Bridge จะส่งผลให้ปริมาณ BTC ที่หมุนเวียนอยู่บนเชนหลักลดลง ขณะที่ wrapped BTC ถูกนำไปใช้งานในเครือข่ายใหม่ได้อย่างอิสระ
ผลลัพธ์คือทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นในระบบ Bitcoin Hyper จะเพิ่มแรงซื้อเข้ามาในตลาด โดยเป็นความต้องการที่เกิดจากการใช้งานจริง ไม่ใช่เพียงแค่การถือครองเพื่อเก็บมูลค่าแบบเดิม ซึ่งอาจช่วยหนุนราคา BTC ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
HYPER ดันเป้าใหม่! นักวิเคราะห์คาดราคาพุ่งหลายเท่าหากโตตามแผน
กระแสความสนใจใน Bitcoin Hyper (HYPER) ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่มาจากนักลงทุนรายใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักวิเคราะห์และอินฟลูเอนเซอร์ในวงการคริปโตที่เริ่มออกมาประเมินศักยภาพของโปรเจกต์นี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
หนึ่งในบทวิเคราะห์จาก Cryptonews คาดว่า ราคาของ HYPER อาจแตะระดับ 0.0583 ดอลลาร์ภายในปีนี้ หากเทียบกับราคาขายรอบปัจจุบันที่ 0.013095 ดอลลาร์ต่อโทเคน จะเท่ากับผลตอบแทนประมาณ 345% หรือราว 4.45 เท่าสำหรับผู้ที่เข้าลงทุนตั้งแต่ต้น
หากมองไปถึงปีหน้า บนสมมติฐานว่าเครือข่าย Bitcoin Hyper เติบโตขึ้นต่อเนื่องและมีการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ ๆ เข้ามาเสริม ระบบนิเวศอาจผลักดันราคาให้สูงขึ้นถึง 0.1557 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นกว่า 1,089% หรือประมาณ 12 เท่าจากระดับราคาปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม มีบางมุมมองที่มองว่า ตัวเลขเหล่านี้ยังถือว่า “อนุรักษนิยม” เกินไป โดยเว็บไซต์ด้านคริปโตชื่อดังอย่าง 99Bitcoins เสนอสมมติฐานว่า หาก HYPER สามารถดึงส่วนแบ่งการถือครองของ Bitcoin มาได้ในสัดส่วนที่มีนัยยะสำคัญ ราคาอาจพุ่งขึ้นได้มากถึง 100 เท่า
เพื่อให้เห็นภาพ หากเพียงแค่ 1% ของ Bitcoin ทั้งหมดถูกนำมาเชื่อมเข้าสู่ระบบสะพาน (bridge) ของ Bitcoin Hyper จะมีมูลค่ารวมกว่า 25.5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าตลาดแบบ Fully Diluted Valuation ของ HYPER ณ ราคาขายรอบปัจจุบันยังอยู่ที่เพียง 275 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
ความต่างอย่างมีนัยยะระหว่างมูลค่าที่ “อาจไหลเข้าสู่ระบบ” กับมูลค่าตลาดในปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยมองว่า Bitcoin Hyper คือหนึ่งในโอกาสการลงทุนที่มีความไม่สมดุลสูง (asymmetric opportunity) ที่สุดในตลาดคริปโตช่วงนี้ โดยเฉพาะเมื่อโปรเจกต์กำลังเข้าสู่เฟสพัฒนาที่สำคัญต่อไป
วาฬจ่อเข้าเพิ่ม? HYPER ยังเปิดให้ซื้อ พร้อมรับรายได้ Passive
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าร่วมรอบ Presale และวางตัวในตำแหน่งเดียวกับกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ (Whales) การซื้อโทเคน HYPER สามารถทำได้โดยตรงผ่านเว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper โดยรองรับการชำระเงินผ่านหลากหลายสกุลเงิน ทั้ง SOL, ETH, USDT, USDC, BNB และแม้แต่บัตรเครดิต
ผู้ถือครอง HYPER ยังสามารถเริ่มรับรายได้แบบ Passive ได้ทันที ก่อนที่ระบบจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ (TGE) ผ่านโปรโตคอลดั้งเดิมของ Bitcoin Hyper ซึ่งในขณะนี้ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจถึง 51% ต่อปี (APY) โดยมีจำนวนโทเคนที่ถูกนำไป Stake แล้วเกือบ 1 พันล้านโทเคน
สำหรับกระบวนการซื้อ HYPER ทางทีมผู้พัฒนาแนะนำให้ใช้ Best Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าคริปโตที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนสาย Bitcoin โดยในแอปมีการแสดงโทเคน HYPER อยู่ในหมวด “Upcoming Tokens” ทำให้สะดวกต่อการซื้อ ติดตามราคา และรับโทเคนเมื่อระบบเปิดใช้งานจริง
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดของโครงการได้ผ่านช่องทาง Telegram และ X (Twitter) ของชุมชน Bitcoin Hyper รวมถึงสามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและเริ่มต้นการลงทุนได้ทันที