แม้ปี 2025 ที่ผ่านมาราคา Bitcoin จะร่วงลงไปราว 7% และทำผลงานได้ไม่ดีเท่าสินทรัพย์อื่น ๆ แต่ในปี 2026 ที่กำลังจะมาถึง กลับมีปัจจัยสำคัญหลายอย่างที่อาจเข้ามาพลิกเกมและกำหนดทิศทางราคาของ BTC ได้อย่างมีนัยสำคัญ บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงปัจจัยมหภาค, สัญญาณทางเทคนิค และตัวแปรใหม่ ๆ ที่นักลงทุนต้องจับตามอง
วิเคราะห์ 3 ปัจจัยมหภาค กำหนดทิศทาง Bitcoin ราคาปี 2026
ปัจจัยแรกที่ส่งผลกระทบโดยตรงคือท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) แม้ในปี 2025 จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นราคา Bitcoin ได้เท่าที่ควร สำหรับปี 2026 นักวิเคราะห์จาก Polymarket คาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้ง นอกจากนี้ หาก Donald Trump ได้รับเลือกและเปลี่ยนตัวประธาน Fed คนใหม่ อาจนำไปสู่นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายสุดขั้ว โดยอาจลดดอกเบี้ยเหลือเพียง 1% ซึ่งสภาวะดอกเบี้ยต่ำเช่นนี้จะเป็นผลบวกอย่างมากต่อ Bitcoin ราคา และสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ
ปัจจัยที่สองคือความคืบหน้าของกฎหมาย Digital Asset Market Structure Clarity Act (CLARITY) ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ถูกจับตามองอย่างมากในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความชัดเจนทางกฎระเบียบ ด้วยการจำแนกประเภทสินทรัพย์ดิจิทัลว่าชนิดใดเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) และชนิดใดเป็นหลักทรัพย์ (Securities) พร้อมทั้งแบ่งแยกอำนาจหน้าที่ระหว่าง ก.ล.ต. (SEC) และ CFTC ให้ชัดเจน
หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านการอนุมัติ จะถือเป็นข่าวดีครั้งใหญ่ที่ช่วยลดความไม่แน่นอนและส่งผลบวกต่อราคา Bitcoin รวมถึงตลาด Altcoin โดยรวม นอกจากนี้ ความชัดเจนทางกฎหมายยังช่วยให้นักลงทุนสามารถนำเคล็ดลับการพิจารณาและเลือกเหรียญคริปโตไปปรับใช้ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
สุดท้ายคือกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุน Bitcoin ETF ซึ่งยังคงเป็นตัวชี้วัดความต้องการของนักลงทุนสถาบันได้อย่างดีเยี่ยม ตลอดปี 2025 ที่ผ่านมา กองทุน BTC ETF มีเงินไหลเข้าสุทธิกว่า 22,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดรวมเงินทุนไหลเข้าทั้งหมดสูงกว่า 56,000 ล้านดอลลาร์ และมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ถึง 113,000 ล้านดอลลาร์
หากกระแสเงินทุนยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องในปี 2026 ก็จะเป็นแรงหนุนสำคัญที่ผลักดันให้ Bitcoin ราคาสูงขึ้นได้อีก ขณะเดียวกัน ถึงแม้ว่าในบางช่วงจะมีรายงานเกี่ยวกับ Bitcoin และ Ethereum ETF ที่มีเงินไหลออกในระยะสั้น แต่ภาพรวมของกระแสเงินทุนสุทธิตลอดทั้งปียังคงเป็นบวกอย่างมีนัยสำคัญ
กราฟเทคนิคชี้ “เจ็บก่อนจบ” Bitcoin ราคาอาจย่อตัวสู่ $70,000
เมื่อพิจารณาจากกราฟรายสัปดาห์ (Weekly Chart) สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าราคา Bitcoin อาจต้องเผชิญกับแรงเทขายในระยะสั้น ก่อนจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง โดย BTC ได้ฟอร์มตัวในรูปแบบ Rising Wedge และราคาก็ได้หลุดกรอบล่างของแพทเทิร์นลงมาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการสร้างรูปแบบ Bearish Pennant ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่สู้ดีนักในทางเทคนิค
ยิ่งไปกว่านั้น อินดิเคเตอร์อื่น ๆ ก็ส่งสัญญาณลบเช่นกัน โดยราคาได้เคลื่อนตัวลงมาอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 สัปดาห์ (50-week EMA) และค่า MACD ก็ได้ตัดลงต่ำกว่าเส้นศูนย์แล้ว ปัจจัยทางเทคนิคเหล่านี้ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Bitcoin ราคาอาจปรับฐานลงไปทดสอบแนวรับที่ระดับ 70,000 ดอลลาร์ ก่อนที่นักลงทุนจะเริ่มเข้ามาช้อนซื้อ (Buy the Dip) และผลักดันให้ราคากลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งในปี 2026
LiquidChain ($LIQUID): โครงการ Layer-3 ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนอุตสาหกรรม
ท่ามกลางการจับตาทิศทางตลาด อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่น่าสนใจคือ LiquidChain ($LIQUID) ซึ่งเป็นบล็อกเชน Layer-3 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาใหญ่ของวงการ DeFi อย่าง “สภาพคล่องที่กระจัดกระจาย” โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมสภาพคล่องของ Bitcoin, Ethereum และ Solana เข้าไว้ด้วยกันโดยไม่ต้องพึ่งพา Bridge ที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้โปรเจกต์นี้กลายเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนและกำลังถูกจับตา
จุดเด่นของ LiquidChain คือการวางตำแหน่งตัวเองเป็น ‘Infrastructure Play’ ไม่ใช่เหรียญมีม (Meme coin) ที่มาแล้วไป แต่เป็นโปรเจกต์ที่พยายามแก้ปัญหาจริงที่ตลาดต้องการสำหรับ Bull Run รอบถัดไป ด้วยแนวคิด Layer-3 ที่ทำหน้าที่เป็น ‘ตัวเชื่อม’ ระหว่าง 3 Ecosystem ที่ใหญ่ที่สุดในตลาด ทำให้มีโอกาสกลายเป็น Narrative ใหม่ที่น่าสนใจ
ในด้าน Tokenomics โทเค็น $LIQUID ถูกออกแบบให้เป็นหัวใจของระบบนิเวศ ใช้สำหรับเป็นค่า Gas, การ Staking เพื่อรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย และการ Governance ซึ่งทำให้มูลค่าของโทเค็นผูกอยู่กับการเติบโตและการใช้งานจริงของแพลตฟอร์ม นับเป็น เหรียญคริปโตใหม่ ที่มี Utility รองรับชัดเจน
หากคุณอยากประเมินศักยภาพของ Liquidchain โปรดใช้ หรือดูคู่มือวิธีซื้อ Liquidchain แบบละเอียด เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
ขยายการเรียนรู้ต่อจาก เว็บไซต์ทางการของ Liquidchain และสื่อสารกับทีมงานผ่าน X และ ช่อง Telegram
ประเด็นสำคัญ Key Take Away
• ทิศทาง Bitcoin ราคาในปี 2026 ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ นโยบายดอกเบี้ยของ Fed, การผ่านกฎหมาย CLARITY Act และเงินทุนไหลเข้า Bitcoin ETF
• สัญญาณเทคนิคชี้ว่าราคา BTC อาจเผชิญแรงเทขายระยะสั้น โดยมีโอกาสปรับฐานลงไปที่แนวรับ $70,000 ก่อนจะกลับตัวเป็นขาขึ้นอีกครั้งในปี 2026
• นักลงทุนสถาบันยังคงให้ความสนใจ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากเงินทุนไหลเข้า ETF ที่มีมูลค่ารวมกว่า 56,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญในระยะยาว
