Ethereum พุ่งทำสถิติใหม่เหนือ 4,955 ดอลลาร์ หลัง Powell ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย

Ethereum สามารถสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในตลาดคริปโต ด้วยการพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 4,954.81 ดอลลาร์ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา การพุ่งขึ้นครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากถ้อยแถลงเชิงผ่อนคลายของ Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในงานประชุมที่ Jackson Hole ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

แม้ราคาจะมีการปรับฐานลงเล็กน้อยมาที่ 4,719 ดอลลาร์ (ลดลงราว -1.45% ภายใน 24 ชั่วโมง) แต่การดีดตัวอย่างแข็งแกร่งในรอบนี้สะท้อนถึงความต้องการที่ยังคงมีอยู่สูงต่อสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับ Bitcoin ที่เผชิญแรงขายหนักจนร่วงลงกว่า -2.19% ภายในวันเดียว

Powell จุดประกายตลาดคริปโต

คำพูดของ Powell เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้ส่งแรงกระเพื่อมทันทีต่อตลาด เขากล่าวว่า “แนวโน้มเศรษฐกิจและสมดุลของความเสี่ยงอาจทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน” ซึ่งตลาดตีความว่ามีโอกาสสูงที่ Fed จะประกาศลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน

Ethereum ตอบสนองอย่างรุนแรง โดยราคาพุ่งขึ้นเกือบ 7% ภายในไม่กี่นาที หลัง Powell กล่าวจบ แตะ 4,600 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับฐานและกลับมาสร้างสถิติใหม่ที่ 4,955.90 ดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่ต่อเนื่องและกระแสการเข้ามาของนักลงทุนรายใหม่

ในทางกลับกัน Bitcoin ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตชั้นนำเช่นกัน กลับไม่สามารถรักษากำไรได้ โดยร่วงลงต่ำสุดที่ 110,779 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ปัจจัยที่หนุน Ethereum

หนึ่งในสาเหตุที่ Ethereum สามารถทำผลงานได้เหนือกว่า Bitcoin คือโครงสร้างตลาดที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยเกือบหนึ่งในสามของอุปทานทั้งหมดถูกล็อกไว้ในสัญญา Staking ซึ่งช่วยลดอุปทานหมุนเวียนในตลาด ขณะเดียวกันบริษัทต่างๆ เริ่มหันมาถือ Ethereum ในคลังเพื่อสร้างผลตอบแทนจากระบบการ Staking

ตัวอย่างล่าสุดคือ Bitmine Immersion Technologies ที่มี Tom Lee นักกลยุทธ์ชื่อดังจาก Wall Street เป็นประธาน ได้เข้าซื้อ Ethereum มูลค่า 45 ล้านดอลลาร์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อมูลจาก Arkham Intelligence ยืนยันการเคลื่อนไหวนี้ ถือเป็นสัญญาณบวกต่อสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ที่เริ่มมอง Ethereum เป็นสินทรัพย์สำคัญควบคู่กับ Bitcoin

Ethereum จึงถูกจับตามองมากขึ้นในฐานะเหรียญ Altcoin ชั้นนำที่มีความได้เปรียบทั้งในแง่เทคโนโลยีและความต้องการใช้งานจริง โดยเฉพาะการใช้งานใน DeFi, NFT และระบบ Smart Contract

มุมมองเชิงเทคนิคและแนวโน้มตลาด

จากมุมมองทางเทคนิค Ethereum ยังคงเผชิญแรงกดดันบริเวณแนวต้านใกล้ระดับสูงสุดใหม่ ขณะที่ดัชนี Relative Strength Index (RSI) กำลังบ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในภาวะ Overbought หรือซื้อมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับฐานในระยะสั้น

ในฝั่งของ Bitcoin แรงขายจากฝั่งนักขุดยังคงกดดันตลาด โดยมีการเทขาย BTC จำนวนกว่า 5,066 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 569 ล้านดอลลาร์ การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ราคา Bitcoin หลุดแนวรับสำคัญที่ 118,859 ดอลลาร์ และเร่งให้เกิดการขายต่อเนื่องจากระบบอัตโนมัติ (Liquidation Cascade)

แม้จะมีการปรับฐานในช่วงต้นสัปดาห์ แต่โดยรวมตลาดยังคงยืนเหนือระดับก่อนการประชุม Jackson Hole อย่างชัดเจน บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นในระยะกลางยังคงแข็งแกร่ง นักลงทุนจึงให้ความสนใจกับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะประกาศก่อนการประชุม Fed วันที่ 18 กันยายน ซึ่งจะชี้ชัดถึงทิศทางนโยบายดอกเบี้ย

บทสรุป

Ethereum ยังคงพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นมากกว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อการเก็งกำไร แต่เป็นเครือข่ายที่มีโครงสร้างแข็งแรงและได้รับการยอมรับในวงกว้าง ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุดยิ่งตอกย้ำว่ามันกำลังกลายเป็นเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนสำหรับนักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบัน

แม้ Bitcoin จะยังคงมีบทบาทเป็นสินทรัพย์หลักในตลาด แต่ความแข็งแกร่งของ Ethereum และการเข้าซื้อจากสถาบัน กำลังสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนในรอบนี้ ตลาดคริปโตจึงยังคงเปิดกว้างสำหรับทั้งนักลงทุนสายระยะสั้นที่มองหาการเก็งกำไร และนักลงทุนระยะยาวที่กำลังหาสินทรัพย์เพื่อสร้างมูลค่าในอนาคต

Best Wallet — กระเป๋า ETH สำหรับนักลงทุนคริปโตทุกระดับ

ท่ามกลางบรรยากาศตลาดคริปโตที่กลับมามีชีวิตชีวาหลังถ้อยแถลงของ Powell ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Ethereum กลับมาได้รับความสนใจอย่างมากอีกครั้ง นักลงทุนจึงเริ่มมองหากระเป๋าคริปโตชั้นนำที่สามารถจัดเก็บสินทรัพย์เหล่านี้ได้ และหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ถูกพูดถึงอย่างมากก็คือ Best Wallet

Best Wallet ไม่ได้เป็นแค่กระเป๋าเก็บเหรียญ แต่คือแพลตฟอร์มที่รวม DEX, Staking Aggregator และบริการ On-Ramp ไว้ในที่เดียว รองรับกว่า 60 บล็อกเชน พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย Fireblocks MPC-CMP ที่ระดับสถาบันยังเลือกใช้ ทำให้ Best Wallet ได้รับความไว้วางใจและถูกยกให้เป็นตัวเลือกที่แข็งแรงท่ามกลางการแข่งขันในตลาดกระเป๋าคริปโตที่ดุเดือด

ความสำเร็จของพรีเซลโทเค็น $BEST — โทเค็นหลักของแพลตฟอร์มที่จะให้สิทธิพิเศษต่างๆ แก่ผู้ถือครอง — ที่ระดมทุนได้เกิน 15 ล้านดอลลาร์ และฐานผู้ใช้งานกว่า 500,000 ราย สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่ชัดเจน นักลงทุนจำนวนมากเริ่มมองว่า $BEST ไม่ใช่แค่โทเค็นเพื่อการใช้งาน แต่ยังเป็นเหรียญคริปโต Presale ดาวรุ่งที่มีโอกาสสร้างมูลค่าได้มหาศาลในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อระบบ DeFi และกระแสการถือครองสินทรัพย์แบบ Self-Custody ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง