สถานการณ์ล่าสุดของ Bitcoin ยังคงยืนอยู่บน “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ที่อาจเป็นตัวกำหนดทิศทางครั้งใหญ่ในรอบใหม่ได้ทุกเมื่อ ความเชื่อมั่นของตลาดที่พลิกจากบวกเป็นลบอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายฝ่ายมองว่าความเคลื่อนไหวถัดไปมีโอกาสสูงที่จะเป็นการปรับฐานแบบรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อรูปแบบทางเทคนิคหลายตัวเริ่มบ่งชี้ว่า ราคาคริปโตได้หลุดระดับแนวรับใหญ่ ซึ่งมักเป็นสัญญาณลบในอดีต บวกกับสถิติย้อนหลังของตลาดที่มักเคลื่อนไหวซ้ำรอยเดิม ทำให้นักลงทุนจำนวนมากเริ่มจับตาความเป็นไปได้ของการร่วงลงเพิ่มเติม แม้บางฝ่ายยังคง ลุ้น Bitcoin ฟื้นและพุ่งสู่ $160K หากโมเมนตัมกลับมาในภายหลัง แต่สำหรับระยะสั้น ความเสี่ยงขาลงยังคงครอบงำอย่างชัดเจน
สัญญาณอะไรที่อาจนำไปสู่การปรับฐานลงแรงของ Bitcoin
เมื่อความเชื่อมั่นในตลาดอ่อนตัวลง สถานการณ์ของการขายทำกำไรก็เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ความเป็นไปได้ของการ “crash” สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หนึ่งในสัญญาณที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากคือ การที่ราคา Bitcoin หลุดเส้นแนวโน้มเชิงเส้น (linear trend line) บนกราฟ log ซึ่งในทางประวัติศาสตร์แล้ว มักเป็นสัญญาณล่วงหน้าของช่วงขาลงที่หนักหน่วง
Tony “The Bull” Spilotro นักวิเคราะห์คริปโตและผู้เชี่ยวชาญด้าน CMT เป็นหนึ่งในคนที่ออกมา ชี้ให้เห็น ถึงการเคลื่อนไหวครั้งนี้ โดยระบุว่าราคา Bitcoin ได้หลุดเส้นแนวโน้ม log chart ที่ลากมาตั้งแต่ปี 2024 ซึ่งเป็นเส้นที่เคยทำหน้าที่เป็นแนวรับเชิงโครงสร้างสำคัญตลอดรอบขาขึ้นที่ผ่านมา การหลุดเส้นนี้ไม่เพียงสะท้อนแรงขายที่เข้ามาอย่างหนัก แต่ยังสามารถกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายตามมาแบบโดมิโนได้อีกด้วย
Top: Entire Bitcoin history
Bottom: 2023-2025
A lost trend line on a log chart can = big down move
The fractal isn’t a guarantee, but a valid example of losing a linear trend line on a log chart not being something you should ignore
This could get a lot worse. Maybe it… pic.twitter.com/ad7NN2SxkY
— Tony "The Bull" Severino, CMT (@TonyTheBullCMT) November 29, 2025
ถ้ามองย้อนไปในประวัติศาสตร์ทุกครั้งที่เส้นแนวโน้มนี้ถูกทำลาย ผลลัพธ์เกือบทุกครั้งคือการดิ่งลงของราคาอย่างรุนแรง โดยนักวิเคราะห์บางรายถึงขั้นเปรียบเทียบกับการหลุดเทรนด์ใหญ่ช่วงปี 2018 และปี 2022 ที่เคยนำไปสู่จุดต่ำสุดของรอบตลาดหมี ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนจำนวนมาก ลุ้นจุดช้อน Bitcoin หลังราคาดิ่ง เพื่อเก็บต้นทุนต่ำก่อนการฟื้นตัวครั้งใหญ่ในรอบต่อไป
นักวิเคราะห์เตือน: อย่ามองข้ามรูปแบบนี้ แม้จะไม่ใช่สัญญาณการันตีผลลัพธ์
แม้รูปแบบ fractal ที่นักวิเคราะห์หลายคนใช้เปรียบเทียบจะไม่ใช่ “คำทำนายที่การันตี 100%” แต่ Spilotro เน้นย้ำว่าการสูญเสียเส้นแนวโน้มหลักบน log chart เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เขาระบุว่าแม้รูปแบบ fractal อาจไม่เล่นซ้ำตามเดิม แต่การหลุดเส้นสำคัญระดับนี้เป็นสัญญาณเตือนที่นักลงทุนส่วนใหญ่ควรจับตาให้ใกล้ชิดเพราะมีผลต่อโครงสร้างราคาระยะยาว
หากสถานการณ์นี้ยังดำเนินต่อไปตามรูปแบบทางเทคนิคที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และเทรนด์ยังคงเล่นซ้ำตามที่คาดการณ์ นั่นอาจหมายความว่าการปรับฐานครั้งนี้ยังไม่จบ และมีโอกาสลากยาวไปสู่จุดต่ำสุดใหม่ได้อีก นักวิเคราะห์บางส่วนถึงขั้นเตือนว่าราคา Bitcoin อาจลงไปต่ำสุดแถว โซน $50,000 หากแรงขายและความกลัวในตลาดเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ ขณะที่ฝั่งนักลงทุนระยะยาวยังคงประเมินตลาดอย่างรอบคอบ พร้อมมองหาโอกาสจัดพอร์ตจากลิสต์ เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025 เพื่อรับโอกาสของรอบขาขึ้นถัดไป
Bitcoin Hyper: โอกาสใหม่บน Layer-2 แม้ตลาดกำลังกังวลการปรับฐานของ BTC
แม้ตลาดกำลังกังวลว่า Bitcoin อาจเผชิญการปรับฐานต่อหลังหลุดเส้นเทรนด์ไลน์สำคัญ แต่ Bitcoin Hyper (HYPER) กลับยิ่งโดดเด่นในฐานะ Layer-2 ที่เร่งประสิทธิภาพ Bitcoin ด้วย SVM ทำธุรกรรมรวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำกว่าแบบเดิมอย่างชัดเจน

ด้วยสถาปัตยกรรมที่รวม SVM, canonical bridge และ ZK-rollup ทำให้ Bitcoin Hyper รองรับ dApp, DeFi และการโอน BTC แบบทันที ต่างจาก Lightning หรือ Stacks ที่ยังจำกัด ขณะที่กระแส เหรียญมีมมาแรง ก็ช่วยดึงให้นักเก็งกำไรมองหาโปรเจกต์ที่ใช้ประโยชน์จาก BTC ได้จริงมากขึ้น
โทเค็นโนมิกส์ของ $HYPER ยังออกแบบเพื่อเพิ่มการใช้งานจริง ทั้งเป็นค่าแก๊ส, ใช้ stake เพื่อรับรางวัล และเข้าถึงฟีเจอร์ในระบบนิเวศ แม้ทีมยังถูกตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใส แต่ความสามารถของเทคโนโลยี SVM-Rollup ยังทำให้โปรเจกต์นี้น่าจับตาในฐานะ Layer-2 ที่อาจเติบโตเร็วที่สุดบน Bitcoin
ถ้าคุณกำลังวางแผนพิจารณา Bitcoin Hyper สามารถอ่าน บทวิเคราะห์ราคา Bitcoin Hyper หรือดูคู่มือวิธีซื้อ Bitcoin Hyper แบบละเอียด เพื่อเสริมความมั่นใจและกำหนดแผนได้แม่นยำขึ้น
พบสรุปสำคัญใน เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชุมชนใน X และ ช่อง Telegram






