ราคา Bitcoin (BTC) ได้ร่วงลงอย่างน่ากังวล โดยหลุดแนวรับสำคัญที่ $100,000 ลงมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ $98,500 หรือลดลงกว่า 3% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา การปรับตัวลงครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงเทขายที่เร่งตัวขึ้นจากกลุ่มนักลงทุนระยะยาว หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘HODLer’ ซึ่งข้อมูล on-chain ล่าสุดจาก Glassnode ได้เผยให้เห็นถึงสัญญาณที่น่าจับตามอง
เจาะลึกข้อมูล On-Chain: ทำไม HODLer ถึงเทขาย Bitcoin?
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ on-chain อย่าง Glassnode ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการขายที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มผู้ถือครอง Bitcoin ระยะยาว (Long-Term Holders หรือ LTHs) ซึ่งหมายถึงนักลงทุนที่ถือเหรียญนานกว่า 155 วันโดยไม่มีการเคลื่อนไหว โดยปกติแล้ว กลุ่ม LTHs จะขึ้นชื่อเรื่องความเชื่อมั่นและไม่ค่อยขายเหรียญ แต่ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าซัพพลายของ LTHs กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าพวกเขากำลังทยอยทำกำไร
Long-term $BTC holders are accelerating their distribution, with supply declining fast and net position change falling sharply into negative territory.
LTHs are booking profits as bulls defend $100k. https://t.co/yatqA1O7nd pic.twitter.com/rZ8XMSRZXR— glassnode (@glassnode) November 13, 2025
การเทขายระลอกล่าสุดนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในวัฏจักรปัจจุบัน เพราะกลุ่ม HODLer ได้ขายทำกำไรในช่วงที่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นในปี 2024 มาแล้วสองครั้ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลคืออัตราการขายที่เร่งตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลัง ซึ่งสอดคล้องกับโมเมนตัมขาลงของตลาด นักวิเคราะห์มองว่า HODLer บางส่วนอาจกังวลว่านี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายในการทำกำไรก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่ภาวะหมี จึงตัดสินใจขาย Bitcoin ออกมา อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความอ่อนแรงนี้ก็มีสัญญาณว่าตลาดที่กลัวสุดขีดอาจจุดพลุให้เกิดการกลับตัวได้เช่นกัน
วิเคราะห์ทิศทางราคา Bitcoin: ตลาดหมีมาเยือน หรือแค่ปรับฐาน?
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ราคา Bitcoin พยายามยืนเหนือระดับ $100,000 ท่ามกลางแรงกดดันจากการเทขาย แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานไหวและร่วงลงมาในที่สุด สถานการณ์นี้ทำให้นักลงทุนต่างตั้งคำถามว่าตลาดกระทิงสิ้นสุดลงแล้วหรือไม่ ในอดีต ตลาดกระทิงจะยังคงดำเนินต่อไปได้ตราบใดที่มีอุปสงค์หรือแรงซื้อใหม่ๆ เข้ามาดูดซับแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนมือเก๋าหรือ ‘Diamond Hands’ ได้ทัน
ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไปคือ ตลาดจะมีแรงซื้อใหม่เข้ามาพยุงราคา Bitcoin ได้หรือไม่ หากมีแรงซื้อเข้ามามากพอ การปรับตัวลงครั้งนี้อาจเป็นเพียงการปรับฐานระยะสั้น แต่หากแรงขายยังคงถาโถมโดยไม่มีอุปสงค์ใหม่มารองรับ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ Bitcoin และตลาดคริปโตโดยรวมอาจเข้าสู่ช่วงขาลงที่ยาวนานขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาด Altcoin ได้เช่นกัน ขณะเดียวกัน นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับสัปดาห์ชี้ชะตาของ Bitcoin ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีปัจจัยสำคัญหลายอย่างรออยู่
Bitcoin Hyper: Layer-2 ที่อาจเป็นจังหวะทองของนักลงทุน
ท่ามกลางความผันผวนของราคา Bitcoin โปรเจกต์ใหม่ๆ ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งก็ยังคงได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม หนึ่งในนั้นคือ Bitcoin Hyper (HYPER) โปรเจกต์ Layer-2 ที่สร้างปรากฏการณ์ด้วยการระดมทุนทะลุ 27.5 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่ถึง 4 เดือน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างสูงจากนักลงทุนทั่วโลก

Bitcoin Hyper สร้างขึ้นบนเทคโนโลยี Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อแก้ปัญหาความเร็วและค่าธรรมเนียมของ Bitcoin โดยตรง ทำให้สามารถรองรับธุรกรรมได้หลายหมื่นครั้งต่อวินาที (TPS) ด้วยค่าธรรมเนียมเฉลี่ยต่ำกว่า 0.001 ดอลลาร์ ทำให้ Bitcoin Hyper กลายเป็นหนึ่งใน เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนวันนี้ ที่มีศักยภาพในการปลดล็อกการใช้งาน DeFi และ dApps บนเครือข่าย Bitcoin อย่างแท้จริง
ก่อนตัดสินใจเกี่ยวกับ Bitcoin Hyper ขอแนะนำให้อ่าน บทวิเคราะห์ราคา Bitcoin Hyper หรือดูคู่มือวิธีซื้อ Bitcoin Hyper แบบละเอียด เพื่อทำความเข้าใจโอกาสให้ชัดเจน
พบสรุปสำคัญใน เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชุมชนใน X และ ช่อง Telegram
สรุปประเด็นสำคัญ
- ราคา Bitcoin ปรับตัวลงต่ำกว่า $100,000 โดยมีสาเหตุหลักจากแรงเทขายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของกลุ่มผู้ถือครองระยะยาว (LTHs)
- ข้อมูล on-chain ชี้ว่า HODLer กำลังทำกำไรในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอน ซึ่งเป็นสัญญาณที่นักลงทุนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
- โปรเจกต์ Layer-2 อย่าง Bitcoin Hyper กำลังได้รับความสนใจจากการนำเสนอฟังก์ชัน DeFi และ dApps มาสู่ระบบนิเวศของ Bitcoin
- อนาคตของตลาดกระทิงขึ้นอยู่กับว่าจะมีอุปสงค์ใหม่เข้ามาดูดซับแรงขายจากกลุ่ม HODLer ได้ทันเวลาและมีประสิทธิภาพหรือไม่






