Bitcoin (BTC) เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากร่วงลงไปทดสอบแนวรับที่ประมาณ $82,000 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ก็ได้ชี้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของการร่วงลงของ Bitcoin ว่าไม่ได้มาจากปัจจัยที่ตลาดกังวลในตอนแรก
ท่ามกลางมุมมองบวกจากนักวิเคราะห์ที่ชี้ว่าแรงเทขายเริ่มแผ่วลง ประกอบกับความคาดหวังของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะกลับมาพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง นี่อาจจะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่ส่งให้ราคากลับสู่แนวโน้มขาขึ้นได้หรือไม่?
วิเคราะห์สัญญาณ Bitcoin: แรงเทขายลดลง สู่จุดต่ำสุดแล้วหรือยัง?
นักวิเคราะห์จาก Swissblock บริษัทจัดการสินทรัพย์ชื่อดัง ชี้ว่า Bitcoin ได้สร้างก้าวแรกที่สำคัญในการฟอร์มตัวเป็นจุดต่ำสุดแล้ว โดยระบุว่า “สัญญาณ Risk-Off กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว” ซึ่งบอกเราได้สองอย่างคือ แรงกดดันจากการขายได้ลดลง และช่วงเวลาแห่งการยอมจำนน (Capitulation) ที่เลวร้ายที่สุดน่าจะผ่านพ้นไปแล้วในตอนนี้
Bitcoin has taken its first real step toward forming a bottom.
The Risk-Off Signal is dropping sharply, which tells us two things: selling pressure has eased, and the worst of the capitulation is likely behind us, for now. 👇https://t.co/Y2JTyqD93f pic.twitter.com/zjfkmVwCru
— Swissblock (@swissblock__) November 24, 2025
Swissblock ยังเสริมอีกว่า โดยปกติแล้วมักจะมีคลื่นการขายระลอกที่ 2 ตามมา ซึ่งมักจะอ่อนแอกว่าระลอกแรก และหากราคาสามารถยืนเหนือจุดต่ำสุดเดิมได้ ก็จะกลายเป็นหนึ่งในสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้นที่น่าเชื่อถือที่สุด ถึงแม้ว่าจะมีข้อมูลว่าวาฬ Bitcoin รุ่นเก๋าได้เทขายทำกำไรออกมาจำนวนมาก แต่หากแรงซื้อสามารถดูดซับแรงขายนี้ได้ ก็จะยิ่งตอกย้ำความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้น เพราะคลื่นลูกที่ 2 นี้มักจะบ่งชี้ถึงความอ่อนแรงของฝั่งผู้ขาย และเป็นการส่งสัญญาณว่าฝั่งกระทิงกำลังจะกลับมาคุมตลาดอีกครั้ง
โดยข้อมูลจาก TradingView เผยว่าราคา Bitcoin ได้ร่วงลงไปแตะระดับ $80,600 บนกระดานเทรด Coinbase ซึ่งเป็นการปรับฐานลงมากว่า 36% จากจุดสูงสุดตลอดกาลที่เคยทำไว้ที่กว่า $126,000 เมื่อต้นเดือนตุลาคม
นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณหนึ่งสัญญาณบวกจากการที่ Bitcoin เกิดภาวะ Backwardation ซึ่งอาจเป็นจุดกลับตัว ที่นักลงทุนหลายคนรอคอย อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้ยังคงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องจับตาดูว่าแรงขายจะลดลงต่อเนื่องหรือไม่
จับตา Fed! โอกาสลดดอกเบี้ยหนุน Bitcoin กลับมาเป็นขาขึ้น
Charles Edwards ผู้ก่อตั้ง Capriole Fund ได้โพสต์ผ่าน X ว่าตลาดหุ้นเทคโนโลยีและตลาดคริปโตเผชิญแรงเทขายอย่างหนักในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา “เนื่องจากตลาดมีความคาดหวังที่ผันผวนเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย” แต่เมื่อตลาดเริ่มปรับมุมมองกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง เขาคาดว่าปัจจัยนี้จะช่วยหนุนให้ราคา Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
A lot of the reason the S&P500 dropped 200 points over the last 2 weeks is because of the market flip flopping on expectations for a rate cut. We started November at 90% odds for a cut in December, dropped to only 30% and are now back at 70% likelihood of a rate cut. As the…
— Charles Edwards (@caprioleio) November 24, 2025
ความเชื่อมั่นดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ที่บ่งชี้ว่าโอกาสที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 10 ธันวาคม ได้พุ่งกลับมาอยู่ที่ 69.3% แล้ว หลังจากที่เคยลดลงไปเหลือเพียง 30% ในสัปดาห์ก่อนหน้า ด้านบัญชี X ที่ใช้ชื่อว่า “Global Markets Investor” ได้แชร์ข้อมูลจาก Polymarket พร้อมแสดงความเห็นว่า “ช่างเป็นความแตกต่างของความคาดหวังในตลาดที่เกิดขึ้นในเวลาเพียง 2 วัน” ซึ่งตอกย้ำว่ามุมมองของนักลงทุนกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin
🔴What a DIFFERENCE 2 days make in market expectations:
The market is now pricing a 67% probability of a Fed 25 basis points rate cut on December 10.
This is up from ~30% on Wednesday (October's jobs report canceled by BLS), with the entire move occurring over just 2 days. pic.twitter.com/7Y60dFCPUp
— Global Markets Investor (@GlobalMktObserv) November 23, 2025
เปิดไพ่ใบสุดท้าย? Bitcoin อาจได้อานิสงส์จากสภาพคล่องที่ Fed เตรียมอัดฉีด
นอกจากการลดดอกเบี้ยแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่ตลาดกำลังจับตามองคือการอัดฉีดสภาพคล่อง โดยนักวิเคราะห์ตลาดชื่อดังอย่าง “Sykodelic” คาดการณ์ว่า “จะไม่แปลกใจเลยหาก Fed จะประกาศบางอย่างในการประชุมครั้งถัดไปในรูปแบบของ ‘การบริหารจัดการเงินสำรอง’ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วก็คือการขยายสภาพคล่องนั่นเอง” เขายังเสริมอีกว่าธนาคารกลางจำเป็นต้องอัดฉีดสภาพคล่องในบางจุด “มิฉะนั้นพวกเขาจะล้มละลาย”
This time is different.
In 2019 the FED overdid QT and broke the system.
This was the 2019 repo crisis.
Right now, reserves are getting pretty low, but not within danger territory just yet.
In addition, we have already had the harshest drop in Bitcoins history(record breaking… https://t.co/KHEgho2dwE
— Sykodelic 🔪 (@Sykodelic_) November 22, 2025
การเดิมพันว่าตลาดจะเข้าสู่ภาวะหมีที่ยาวนาน ก็เท่ากับเป็นการเดิมพันว่าสหรัฐอเมริกาจะปล่อยให้ตัวเองล้มละลาย ซึ่งเป็นไปได้ยาก โดยในอดีต การลดอัตราดอกเบี้ยและการเพิ่มสภาพคล่อง (Quantitative Easing) มักเป็นปัจจัยบวกอย่างยิ่งต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึง Bitcoin และกลุ่ม Altcoin โดยช่วงเวลาของการทำ QE มักจะตามมาด้วยการพุ่งขึ้นของราคาอย่างมีนัยสำคัญ
Bitcoin Hyper เกาะกระแสฟื้นตัวของตลาด พร้อมชิงเป็นผู้นำ Layer-2
เมื่อ Bitcoin เริ่มส่งสัญญาณแรงขายแผ่วและความหวังต่อการลดดอกเบี้ยกลับมาเป็นบวก นักลงทุนจำนวนมากกำลังมองหาโอกาสใหม่ในตลาดฟื้นตัว — และนี่ทำให้ Bitcoin Hyper (HYPER) โดดเด่นขึ้นทันทีในฐานะ เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025 เพราะโมเดล Layer-2 แบบ SVM ที่ออกแบบมาเพื่อเร่งความเร็วและลดค่าธรรมเนียมของเครือข่าย Bitcoin กำลังตอบโจทย์กระแสเม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงได้อย่างตรงจุด

Bitcoin Hyper ยังเดินหน้า Presale ด้วยยอดระดมทุนทะลุ $28.3 ล้าน พร้อมการรองรับ smart contract, ความเร็วระดับ Solana และฟีเจอร์ staking ที่เปิดให้ใช้งานตั้งแต่ช่วงขายรอบแรก ปัจจัยเหล่านี้ทำให้โครงการถูกจับตามองว่าอาจเป็น เหรียญ Presale มาแรง ของรอบนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการโอกาสเติบโตรอบใหญ่ก่อนการเปิดตัว mainnet ในปี 2026
หากคุณต้องการมุมมองเพิ่ม Bitcoin Hyper แนะนำให้ใช้ บทวิเคราะห์ราคา Bitcoin Hyper หรือดูคู่มือวิธีซื้อ Bitcoin Hyper แบบละเอียด เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนก่อนตัดสินใจ
ติดตามกิจกรรมพิเศษได้ใน เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper และร่วมพูดคุยสดใน X และ ช่อง Telegram
สรุปประเด็นสำคัญ
- สัญญาณทางเทคนิคชี้ว่าแรงเทขาย Bitcoin เริ่มอ่อนกำลังลงอย่างชัดเจน ซึ่งอาจหมายถึงจุดต่ำสุดของรอบการปรับฐานนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว และตลาดพร้อมฟื้นตัว
- ตลาดกลับมาคาดการณ์ว่า Fed มีโอกาสสูงถึงเกือบ 70% ที่จะลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ช่วยหนุนราคา Bitcoin และสินทรัพย์เสี่ยง
- นักวิเคราะห์มองว่า Fed อาจต้องอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในไม่ช้า ซึ่งตามประวัติศาสตร์แล้วมักจะส่งผลให้ตลาดคริปโตและ Bitcoin เข้าสู่ภาวะกระทิง






