
ตลาดคริปโตกำลังเผชิญกับแรงกดดันครั้งใหญ่ หลังจากข้อมูล on-chain ล่าสุดเผยให้เห็นการเคลื่อนไหวที่น่ากังวล โดยมี Bitcoin (BTC) มูลค่ามหาศาลกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์ ถูกโอนเข้าสู่กระดานเทรด (Exchange) ภายในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา การไหลเข้าอย่างรุนแรงนี้ส่งสัญญาณถึงแรงเทขายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุน Bitcoin ทั่วโลกต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อทิศทางราคาในระยะสั้นและระยะกลาง การวิเคราะห์แนวโน้มของ Bitcoin ในครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายต่างออกมาแสดงความคิดเห็น โดยชี้ว่าแม้จะมีแรงเทขาย แต่ก็อาจเป็นเพียงการปรับฐานในระยะสั้นเท่านั้น ดังที่บทวิเคราะห์ล่าสุดได้ระบุว่า การร่วงลงของราคา Bitcoin ไม่ใช่ขาลงยาว แต่อย่างใด
วิเคราะห์ข้อมูล On-Chain: Bitcoin 20,000 BTC ไหลเข้า Exchange
ข้อมูลจาก Santiment ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชน ได้เปิดเผยตัวชี้วัดสำคัญอย่าง “Supply on Exchanges” หรือปริมาณ Bitcoin ที่ถูกเก็บไว้ในวอลเล็ตของ Exchange ต่างๆ ซึ่งพบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขที่น่าตกใจคือ มี Bitcoin จำนวนมากถึง 20,000 BTC ถูกโอนเข้ามายังแพลตฟอร์มเหล่านี้ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
20,000 Bitcoin $BTC, worth $2.4 billion, moved to crypto exchanges in the last two weeks! pic.twitter.com/YT8O1jIwZs
— Ali (@ali_charts) August 26, 2025
โดยปกติแล้ว การที่นักลงทุนเคลื่อนย้าย Bitcoin เข้าสู่ Exchange มักมีจุดประสงค์หลักเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขาย การเพิ่มขึ้นของอุปทาน Bitcoin บน Exchange จึงถูกมองว่าเป็นสัญญาณลบ (Bearish) ที่อาจสร้างแรงกดดันให้ราคาปรับตัวลดลงได้ สถานการณ์นี้สอดคล้องกับการที่ราคา Bitcoin เริ่มปรับตัวลดลงในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าแรงเทขายนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดชะลอตัวลง
แม้ว่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีข้อมูล “Exchange Inflow” ที่แสดงการไหลเข้าของ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก แต่ตัวชี้วัด Supply on Exchanges กลับไม่ได้เพิ่มขึ้นตามอย่างรุนแรงนัก สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่ายังมีแรงซื้อหรือความต้องการถอน Bitcoin ออกจาก Exchange เพื่อไปเก็บในวอลเล็ตส่วนตัวในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งช่วยพยุงสถานการณ์ไม่ให้เลวร้ายไปกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม การไหลเข้าของ Bitcoin ในปริมาณมหาศาลยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง
นักลงทุนระยะสั้นยอมขาดทุน? สัญญาณที่ต้องจับตาในตลาด Bitcoin
อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจคือพฤติกรรมของนักลงทุนระยะสั้น (Short-Term Holders หรือ STHs) ซึ่งหมายถึงผู้ที่ซื้อ Bitcoin และถือครองมาเป็นระยะเวลาน้อยกว่า 155 วัน ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่านักลงทุนกลุ่มนี้มีการโอน Bitcoin เข้าสู่ Exchange เพื่อขายในราคาที่ขาดทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนถึงการยอมแพ้ (Capitulation) ของนักลงทุนกลุ่มที่มักถูกมองว่ามีสภาพจิตใจไม่แข็งแกร่งเท่าผู้ถือระยะยาว
🚨 Short-Term Holders just sent 21,200 $BTC to exchanges at a loss in the past 24h pic.twitter.com/zpBdGpfylm
— Maartunn (@JA_Maartun) August 25, 2025
การที่นักลงทุนระยะสั้นเทขาย Bitcoin ออกมาแม้จะขาดทุน เป็นสัญญาณที่สามารถตีความได้สองแง่มุม ในแง่หนึ่ง มันคือแรงกดดันการขายที่เกิดขึ้นจริงและส่งผลให้ราคาลดลงในปัจจุบัน แต่อีกแง่หนึ่ง การยอมแพ้ของนักลงทุนกลุ่มนี้มักเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดอาจใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว เนื่องจากเหรียญ Bitcoin จะถูกเปลี่ยนมือจาก “Weak Hands” ไปสู่ “Strong Hands” หรือนักลงทุนระยะยาวที่มีความเชื่อมั่นและพร้อมจะสะสมในช่วงที่ราคาถูก
ดังนั้น แม้ภาพรวมตลาด Bitcoin จะดูเป็นลบจากแรงเทขายที่เกิดขึ้น แต่นักลงทุนควรจับตาดูพฤติกรรมของกลุ่ม STHs อย่างใกล้ชิด หากการเทขายขาดทุนนี้สิ้นสุดลงและมีแรงซื้อจากผู้ถือระยะยาวเข้ามาแทนที่ ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวรอบใหม่สำหรับราคา Bitcoin ได้ในอนาคต การเคลื่อนไหวของ Bitcoin ในช่วงนี้จึงเต็มไปด้วยความซับซ้อนที่ต้องวิเคราะห์อย่างรอบด้าน
ในขณะที่ตลาดกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน นักวิเคราะห์บางส่วนยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตในระยะยาว โดยมีการคาดการณ์ว่า Bitcoin อาจมีโอกาสทำราคาสูงขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับ Altcoin อื่นๆ ที่น่าจับตา
Bitcoin Hyper ($HYPER): โอกาสใหม่บน Layer-2 ท่ามกลางความผันผวน
ท่ามกลางความผันผวนของราคา Bitcoin ที่นักลงทุนกำลังจับตา หลายคนเริ่มมองหาโอกาสในโปรเจกต์ Layer-2 ที่มีศักยภาพเติบโตสูงอย่าง Bitcoin Hyper ($HYPER) ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างร้อนแรงหลังจากระดมทุนไปได้แล้ว 12 ล้านดอลลาร์
Bitcoin Hyper คือโปรเจกต์ Layer-2 ที่สร้างบน Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อแก้ปัญหาดั้งเดิมของ Bitcoin ทั้งความช้าและค่าธรรมเนียมที่แพง โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับ Bitcoin ให้กลายเป็นเครือข่ายความเร็วสูงที่ใช้งานได้จริงในโลก DeFi, dApps และ Meme Culture ด้วยความสามารถในการประมวลผลหลายหมื่นธุรกรรมต่อวินาทีและค่า Gas ที่ต่ำมาก ทำให้ Bitcoin Hyper เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่น่าจับตาอย่างยิ่ง
ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นเหล่านี้ ทำให้ Bitcoin Hyper กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหา เหรียญคริปโต Altcoin ที่น่าลงทุน เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนให้เติบโต
จุดเด่นของโครงการคือการเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้ก่อนกองทุนใหญ่ (VC) ในรอบ Presale ซึ่งราคาจะปรับขึ้นทุก 48 ชั่วโมง สร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนรีบตัดสินใจ นอกจากนี้ยังสามารถนำโทเค็นไป Stake เพื่อรับผลตอบแทน (APY) สูงสุดถึง 2,000% ได้ทันที ท่ามกลางกระแส Altcoin Season และการที่ Bitcoin กำลังจะทำ ATH ใหม่ โปรเจกต์อย่าง Bitcoin Hyper จึงถูกมองว่ามีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด และได้รับการกล่าวถึงจากนักวิเคราะห์ว่าอาจเป็นเหรียญที่มีโอกาสทำกำไรได้ถึง 100x
ข้อมูลต่างๆ ของโปรเจกต์
- ศึกษาวิธีซื้อ: ซื้อ Bitcoin Hyper ด้วยขั้นตอนง่ายๆ
- เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper: https://bitcoinhyper.com/th
- ติดตามใน X: https://x.com/BTC_Hyper2
- ช่อง Telegram: https://t.me/btchyperz
การลงทุนในโปรเจกต์ระยะเริ่มต้นเช่นนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง ซึ่งนอกเหนือจาก Bitcoin Hyper แล้ว ยังมี เหรียญ Presale น่าลงทุนในปี 2025 อีกหลายตัวที่น่าสนใจ
สรุป: แรงเทขาย Bitcoin กดดันตลาด แต่ยังมีความหวังซ่อนอยู่
โดยสรุป สถานการณ์ของ Bitcoin ในปัจจุบันกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากการไหลเข้าของ BTC มูลค่ากว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สู่ Exchange ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงแรงเทขายที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม การยอมขาดทุนของนักลงทุนระยะสั้นก็อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดกำลังจะถึงจุดต่ำสุดและพร้อมที่จะเปลี่ยนมือไปสู่ผู้ถือที่มีความเชื่อมั่นมากกว่า นักลงทุนจึงควรติดตามข้อมูล on-chain อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินทิศทางของ Bitcoin และมองหาโอกาสในการลงทุนอย่างรอบคอบท่ามกลางความผันผวนนี้
หลังจากพิจารณาแนวโน้มของ Bitcoin แล้ว การกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ก็เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ นักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อันดับเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนล่าสุด เพื่อประกอบการตัดสินใจได้
