เรื่องราวของ “คลังสมบัติคริปโต” กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น ท่ามกลางโครงสร้างตลาดที่เปลี่ยนแปลงในรอบตลาดกระทิงปี 2025 ขณะที่บิทคอยน์ได้พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดใหม่ จากนั้นราคาก็ปรับฐานในช่วงไม่กี่วันและหลายสัปดาห์ต่อมาอย่างที่คาดการณ์ไว้ ทว่า สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ สถานะของตลาดในตอนนี้กลับไม่สามารถหยุดยั้งบริษัทยักษ์ใหญ่และบริษัทจดทะเบียนจากการเพิ่มคริปโตทางเลือก (altcoins) เข้าไปในคลังสำรองของพวกเขาได้เลย
กลยุทธ์คลังสำรองบิทคอยน์ถูกนำไปใช้กับ Altcoins ชั้นนำ
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้เริ่มต้นแนวทางคลังสำรองนี้ โดยยกระดับบิทคอยน์ให้กลายเป็นสินทรัพย์สำรองเชิงยุทธศาสตร์ กลยุทธ์คลังสำรองจึงเริ่มต้นขึ้น โดย Strategy ที่เป็นบริษัท MicroStrategy ที่เคยเป็นผู้บุกเบิกแนวทางนี้ โดยนำบิทคอยน์ไปไว้ในงบดุลของบริษัท
ตามรอยแนวทางของ Strategy ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียน 159 แห่งที่ถือครองบิทคอยน์ และรวมทั้งหมดแล้วมี 277 บริษัทที่เพิ่ม BTC เข้าไปในคลังของตน รวมจำนวนทั้งหมด 3.6 ล้าน BTC ที่อยู่ในครอบครองของบริษัทต่าง ๆ ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ BitcoinTreasuries.net
ขณะนี้มีหลายบริษัทที่กำลังทดลองแนวทางคลังดิจิทัล โดยเปลี่ยนมุมมองจากแนวทางดั้งเดิมมาเป็นแบบ “แนวทางของ Strategy” สัปดาห์นี้ บริษัทจากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เกษตร อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค และสิ่งทอ ได้ประกาศลงทุนในบิทคอยน์, XRP และ Solana
บริษัท Nature’s Miracle ประกาศจัดสรรเงิน 20 ล้านดอลลาร์เข้าสู่ XRP ทำให้เป็นหนึ่งในคลัง altcoin ที่ใหญ่ที่สุด ส่วน Upexi บริษัทด้านการผลิตสำหรับผู้บริโภค ได้เพิ่มโทเค็น SOL จำนวน 83,000 เหรียญ (มูลค่า 16.5 ล้านดอลลาร์) เข้าไปในสัปดาห์นี้ และบริษัทญี่ปุ่นชื่อ Kitabo ก็เปิดเผยแผนการจะซื้อบิทคอยน์มูลค่า 5.6 ล้านดอลลาร์เพื่อใช้เป็นทุนสำรองของบริษัท
Altcoins ที่อยู่ใน 10 อันดับแรกตามมูลค่าตลาด ขณะนี้ได้ถูกรวมไว้ในงบดุลของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทจากทั่วโลก ขณะที่ altcoins ที่อันดับต่ำกว่ายังคงต่อสู้เพื่อให้ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องเล่าคลังสำรองคริปโต จุดนี้คือความแตกต่างสำคัญที่แยกวัฏจักรตลาดรอบนี้และซีซันของ altcoins ออกจากปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน
กลยุทธ์คลังคริปโตของวอลล์สตรีท: Ethereum, XRP และ Solana
Ethereum
บริษัทวอลล์สตรีทและบริษัทจดทะเบียนที่ลงทุนใน Ethereum เพื่อใช้เป็นคลังคริปโต ได้รับเอ็กซ์โปเชอร์กับ altcoin อันดับหนึ่งนี้ผ่านเงินสดในงบดุล บริษัท BitMine Immersion Technologies คือหนึ่งในบริษัทเด่นที่ใช้กลยุทธ์นี้ โดยมี Tom Lee จาก FundStrat เป็นผู้นำ และถือครอง Ether มากกว่า 300,000 โทเค็น หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์
บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Coinbase Global ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเว็บเทรด Coinbase ก็ถือครอง ETH มูลค่าเกือบ 440 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นรายใหญ่ในกลุ่มบริษัทที่ถือ ETH ไว้ในคลัง
XRP
บริษัททำฟาร์มแนวตั้งรายหนึ่ง ได้ประกาศใช้ XRP เป็นสินทรัพย์คลังสำรอง ทำให้เป็นข่าวใหญ่ในสัปดาห์นี้ ก่อนหน้านี้ Vivo Power และ WeBus บริษัทสตาร์ทอัพด้านการขนส่งจากจีนก็ได้เปิดเผยแผนการที่จะซื้อ XRP เพื่อใส่ไว้ในคลังของบริษัท
Solana
บริษัท DeFi Development Corp ซึ่งจดทะเบียนในตลาด Nasdaq ได้ประกาศว่าในช่วง 10 วันที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าซื้อ SOL ไปแล้ว 141,383 โทเค็น และขณะนี้บริษัทมี SOL ในคลังรวมแล้ว 999,999 เหรียญ พร้อมเปิดเผยว่ามีเงินอีก 5 ล้านดอลลาร์เตรียมไว้สำหรับซื้อ SOL เพิ่มเติมในอนาคต
กลยุทธ์คลังคริปโตกลายเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยอธิบายความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ altcoins เหล่านี้ และยังทำหน้าที่เป็นตัวเร่งตลาดให้กับ SOL ในระยะยาวอีกด้วย
รายงานคริปโตของทรัมป์ และสิ่งที่น่าจับตา
คณะทำงานด้านคริปโตของทรัมป์ เตรียมเผยแพร่รายงานในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ หลังจากใช้เวลาทบทวนนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลครบ 180 วันภายในระยะเวลาครึ่งปี
กลุ่มนี้ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลัง, SEC, CFTC, กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานรัฐบาลกลางอื่น ๆ โดยมี David Sacks ซึ่งเป็นผู้ที่ทรัมป์แต่งตั้ง เป็นหัวหน้าคณะ
Bo Hines ผู้อำนวยการบริหารของคณะทำงานประธานาธิบดีด้านตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ทวีตถึงรายงานนี้:
The President’s Working Group on Digital Assets has completed the 180-day report. It will be released publicly on July 30th.
America is now leading the way on digital asset policy 🇺🇸
— Bo Hines (@BoHines47) July 23, 2025
เมื่อรายงานถูกเปิดเผย คำแนะนำของกลุ่มนี้เกี่ยวกับการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงความเป็นไปได้ของ “คลังคริปโตเชิงยุทธศาสตร์” จะถูกเผยแพร่ออกมา ซึ่งจะส่งผลต่อเหรียญหลักอย่าง Bitcoin, Ethereum, XRP, Solana และ Cardano
แนวทางที่เป็นระบบและกฎระเบียบที่ชัดเจน อาจส่งผลต่อการนำคริปโตไปใช้จริงอย่างกว้างขวาง และในขณะที่เทรดเดอร์กำลังรอซีซัน altcoin อยู่ การเพิ่มความต้องการคริปโตในเว็บเทรดต่าง ๆ ก็อาจช่วยหนุนแนวโน้มนี้ และเปิดทางให้ altcoins ทำกำไรได้ในครึ่งปีหลังของปี 2025
การพุ่งขึ้นของ Ethereum
Ethereum พุ่งขึ้นมากกว่า 50% ภายในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ ทำให้นักเทรดคริปโตหลายคนประหลาดใจ เพราะก่อนหน้านี้ ETH ถูกมองว่า “ตายไปแล้ว” เนื่องจากผลประกอบการอันน่าผิดหวังตลอดปี 2025 อย่างไรก็ตาม Matt Hougan (CIO ของ Bitwise) ยังยืนยันความเชื่อมั่นใน ETH และเชื่อว่า altcoin อันดับหนึ่งยังอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งและสามารถไปต่อได้
Hougan กล่าวถึงการตอบสนองของ ETH ETF ที่เปิดตัวได้ไม่น่าประทับใจนัก แต่บริษัทที่ใช้กลยุทธ์คลังสำรองกลับแห่กันซื้อ ETH โดยใช้เงินสดจากงบดุลเพื่อสะสม ETH ด้วยความหวังว่าราคาจะปรับตัวขึ้น
ETH กำลังมองเป้าต้านที่ $4,000 และจุดสูงสุดก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคม 2024 ที่ $4,107 ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2025 ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ ETH กำลังดูดซับเหรียญใหม่ที่ถูกออกมาในระบบ และการขายทำกำไรของเทรดเดอร์ Hougan เชื่อว่าความต้องการที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนให้ Ethereum ยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นได้ต่อไป
บริษัทจดทะเบียนถือครอง ETH มากกว่า 400 ล้านดอลลาร์แล้ว และหากความต้องการยังคงเพิ่มขึ้น ตัวเลขนี้อาจสูงขึ้นอีก เทรดเดอร์ที่ยังรอดูอยู่ก็อาจพิจารณาสะสม ETH ไว้ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดพีก
ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
Dom Harz, ผู้ร่วมก่อตั้ง BOB กล่าวว่าในจดหมายถึง Crypto.news:
“สัปดาห์นี้ Ethereum ETF มีเงินไหลเข้ามากที่สุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์ ซึ่งอาจเป็นผลจากนักลงทุนที่พลาดบิทคอยน์ไป เพราะ BTC เพิ่งแตะจุดสูงสุดที่ $122,000 ในสัปดาห์ก่อน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ความอยากลงทุนในสองบล็อกเชนใหญ่นั้นชัดเจนมาก และแรงส่งนี้ยังไม่มีวี่แววจะชะลอ โดย ETH ยังแซง BTC ในการให้ผลตอบแทนในเดือนนี้ นักลงทุนสถาบันเริ่มตื่นตัว และหลายรายกำลังวางแผนเพิ่ม ETH เข้าในคลังของตน”
James Toledano, COO ของ Unity Wallet แสดงความคิดเห็นถึงสถานการณ์ล่าสุดในคริปโตว่า:
“ราคาบิทคอยน์ที่ยืนได้ในช่วง $110,000–$120,000 แสดงถึงความแข็งแกร่งของตลาด ซึ่งอาจได้รับแรงหนุนจาก ETF, การสะสมจากสถาบัน และเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ตลาดใหม่แบบกระจายอำนาจ แม้ว่าสัญญาณมหภาคยังคงเป็นบวก แต่ตลาดก็อาจเคลื่อนไหวแบบทรงตัวหรือแกว่งตัวได้ในช่วงย่อยข่าวล่าสุด และรอปัจจัยใหม่ ๆ
สำหรับ Altcoins อย่าง ETH และ XRP กำลังทำผลงานได้ดีกว่า BTC ในแง่เปอร์เซ็นต์ เพราะพวกมันเริ่มจากมูลค่าตลาดที่ต่ำกว่า ทำให้สามารถขยับขึ้นได้แรงกว่า”
ติดตามราคาของ BTC และเหรียญหลักอื่น ๆ ได้ผ่าน Best Wallet
Best Wallet คือกระเป๋าคริปโตแบบ non-custodial ที่รองรับเหรียญกว่า 1,000 รายการจาก 60+ บล็อกเชน รวมถึง BTC, ETH, XRP และ SOL เหมาะกับกระแสตลาดปี 2025 ที่บริษัทใหญ่หันมาถือ altcoins เป็นสินทรัพย์สำรอง ตัวแอปมาพร้อมระบบความปลอดภัยสูง เช่น MPC และ 2FA พร้อมอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายทั้งบน iOS และ Android
ฟีเจอร์เด่นอย่าง swap ภายในแอป, multi-wallet และการติดตามพอร์ตแบบเรียลไทม์ ทำให้ Best Wallet เหมาะทั้งนักลงทุนรายย่อยและสายคลังองค์กรที่ต้องการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจังในยุค bull run นี้ เป็นกระเป๋าที่ครบเครื่องทั้งเรื่องเก็บและจัดการ
