
Michael Saylor ซีอีโอของ Strategy Inc. ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยอธิบายถึงมุมมองของเขาว่าทำไม Bitcoin ถึงยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะไซด์เวย์ ไม่สามารถเบรกขึ้นอย่างรุนแรงเหมือนที่หลายคนคาดหวังได้
ผู้คนถือ BTC มหาศาล แต่สภาพคล่อง Fiat ขาดแคลน
Saylor อธิบายผ่านพอดแคสต์กับ Natalie Brunell อินฟลูเอนเซอร์ด้าน Bitcoin ว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดของ Bitcoin สูงกว่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ปัญหาคือสภาพคล่องในโลกการเงินดั้งเดิมไม่รองรับ ผู้ที่ถือครองไม่สามารถนำ Bitcoin ไปค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อได้
My discussion with @NatBrunell on the digital transformation and reinvigoration of capital markets through digital credit instruments — $STRK $STRF $STRD $STRC — built on $BTC digital capital.pic.twitter.com/t8AcsgdiKF
— Michael Saylor (@saylor) September 19, 2025
เขายกตัวอย่างว่า นักลงทุนจำนวนมากอยู่ในสถานการณ์ที่ “ร่ำรวยเพราะถือ Bitcoin แต่ยากจนในแง่เงินสด” ซึ่งทำให้หลายคนจำเป็นต้องขายออกเพื่อให้มีสภาพคล่องมาใช้จ่าย เหตุการณ์นี้คล้ายกับสตาร์ทอัพที่พนักงานถือครองออปชันหุ้นราคาถูกจำนวนมาก แต่ไม่สามารถกู้ยืมโดยใช้หุ้นเหล่านั้นเป็นหลักประกันได้ จึงต้องทยอยขายออกมาในที่สุด
อีกทั้งแรงขายในรอบนี้ส่วนใหญ่ยังมาจากนักลงทุนรุ่นเก๋าในวงการคริปโต ที่ถือสินทรัพย์มานานและกำลังเลือกกระจายความเสี่ยงออกไป อย่างไรก็ตาม เซย์เลอร์ชี้ว่าเมื่อมองในระยะยาว ปรากฏการณ์นี้ถือเป็นเรื่อง “ปกติ” ของวงจร Bitcoin เพราะหากซูมออกไปดูกราฟในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มูลค่าของมันเพิ่มขึ้นเกือบ 100% เลยทีเดียว ซึ่งนั่นทำให้หลายคนมองว่า Bitcoin จ่อพุ่งรับ Uptober อย่างมีนัยสำคัญ
เซย์เลอร์ผลักดันแนวคิด Bitcoin Treasury Companies
นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวสุนทรพจน์สำคัญในการประชุมครั้งล่าสุด โดยเรียกร้องให้นักลงทุนไม่ต้องสนใจ “เสียงวิจารณ์” ที่พยายามบั่นทอนความเชื่อมั่น แต่ให้หันมาโฟกัสกับโอกาสที่มาจากบริษัทที่ถือ Bitcoin เป็นทุนสำรอง ซึ่งเขาเปรียบเทียบว่าเป็นการ “รีไซเคิลทุนที่ถูกทิ้งไว้” ไม่ต่างจากนักขุดที่รีไซเคลนพลังงานเหลือใช้มาเปลี่ยนเป็นมูลค่า
Saylor ยังเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin ที่จริงจังที่สุด เขาพาบริษัท Strategy Inc. เดินหน้าเก็บ Bitcoin จนขึ้นแท่นองค์กรชั้นนำด้านการถือครอง โดยล่าสุดบริษัทถือครองมากกว่า 72,000 ล้านดอลลาร์ตามข้อมูลจาก bitcointreasuries.net ทำให้เขากลายเป็นสัญลักษณ์ของกระแสการยอมรับ Bitcoin ในระดับองค์กร
สิ่งนี้ยังทำให้หลายคนเชื่อว่า หากบริษัทขนาดใหญ่เดินตามแนวทางนี้เพิ่มขึ้น Bitcoin อาจถูกยกระดับให้กลายเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025 อย่างแท้จริง
เสียงวิจารณ์จาก Jim Chanos
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ของ Saylor ก็ไม่ได้ไร้ข้อกังขา นักลงทุนสายชอร์ตชื่อดัง Jim Chanos วิจารณ์แนวทางการเงินของเขาว่าเป็นเพียง “ภาษาการเงินที่ฟังดูไร้สาระ” โดยเฉพาะหลังจากมีข่าวว่า Strategy อาจพิจารณาขาย Bitcoin บางส่วนหรือใช้อนุพันธ์ เพื่อระดมทุนมาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นจากตราสารที่ออกไปซื้อ Bitcoin ก่อนหน้านี้
ประเด็นดังกล่าวทำให้ตลาดมีการถกเถียงว่า กลยุทธ์ของ Saylor จะยั่งยืนจริงหรือไม่ แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขาก็ยังย้ำว่า “Bitcoin ไร้ผลตอบแทนไม่ใช่ข้อเสีย” เพราะแท้จริงแล้วมันทำหน้าที่เป็นทุนดิจิทัลที่ปกป้องความมั่งคั่งจากการเสื่อมค่าของเงินเฟียตได้
นักลงทุนแห่จับตา Bitcoin Hyper หลังนักวิเคราะห์คาดการณ์โอกาสทำกำไร 100x
นักวิเคราะห์หลายรายยังคงชี้ว่า Bitcoin แม้จะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ แต่แนวโน้มระยะยาวยังเป็นบวก โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วง Uptober ที่ตลาดเชื่อว่าราคาอาจพุ่งขึ้นอีกครั้ง ปัจจัยนี้ช่วยสร้างบรรยากาศเชิงบวกต่อโปรเจกต์ Layer-2 อย่าง Bitcoin Hyper (HYPER) ที่มอบความสามารถใหม่ๆ ให้กับ BTC และกลายเป็น เหรียญใหม่ที่ต้องจับตา ในปีนี้
สิ่งที่ทำให้ Bitcoin Hyper แตกต่างคือการรวมเอาความปลอดภัยของ Bitcoin เข้ากับความเร็วระดับสูงของ Solana ผ่าน SVM ทำให้ระบบสามารถรองรับธุรกรรมและสมาร์ทคอนแทร็กต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อราคา Bitcoin มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ต่อยอดศักยภาพของ BTC เช่นนี้ จึงมีโอกาสได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น และนับเป็น เหรียญ Presale มาแรง ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม
นอกจากนี้ การระดมทุนกว่า 17.5 ล้านดอลลาร์จากรอบ Presale พร้อมผลตอบแทนการ Stake ที่สูงถึง 66% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบัน ในขณะที่นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์โอกาสทำกำไรได้มากกว่า 100 เท่า เมื่อกระแสตลาด Bitcoin ฟื้นตัวแรง โปรเจกต์ที่เชื่อมโยงกับระบบนิเวศ BTC โดยตรงอย่าง Bitcoin Hyper จึงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
