
ตลาดคริปโตคึกคักอย่างมากในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ประกาศว่า Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), XRP, Solana (SOL) และ Cardano (ADA) จะถูกรวมเข้าในคลังสำรองคริปโตเชิงกลยุทธ์ของประเทศ
การประกาศนี้ส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนทะลุระดับ 90,000 ดอลลาร์อีกครั้ง สร้างความตื่นเต้นให้กับนักลงทุนและผู้ที่อยู่ในวงการคริปโตทั่วโลก ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงการยอมรับคริปโตในระดับนโยบายของรัฐบาลสหรัฐอย่างเป็นทางการ
การเลือก Bitcoin และ Altcoin อีก 4 ตัวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของคลังสำรองแห่งชาติ นอกจากจะกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อในตลาดแล้ว ยังช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือของสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ให้สูงขึ้นอีกด้วย การประกาศครั้งนี้ส่งผลให้ราคาของเหรียญที่ถูกเลือกทั้งหมดปรับตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Bitcoin ที่ฟื้นตัวจากการปรับฐานในช่วงก่อนหน้าและกลับมาแตะระดับเหนือ 90,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง

นอกจากการประกาศของประธานาธิบดี Trump แล้ว ยังมีปัจจัยบวกอื่นๆ ที่ช่วยหนุนราคา Bitcoin อีก เช่น การที่ BlackRock บริษัทบริหารสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้เพิ่ม iShares Bitcoin ETF Trust (IBIT) เข้าในพอร์ตการลงทุนมูลค่ามหาศาลถึง 150,000 ล้านดอลลาร์ของบริษัท ตามรายงานของ Bloomberg
โดย BlackRock จะจัดสรรสัดส่วน 1-2% ให้กับพอร์ตที่สามารถลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกได้ ซึ่งการตัดสินใจนี้เปิดโอกาสให้เกิดความต้องการใหม่สำหรับกองทุน Bitcoin ETF ในวงกว้าง
การวิเคราะห์ราคา Bitcoin และแนวโน้มในอนาคต
แม้จะมีปัจจัยบวกมากมาย แต่นักวิเคราะห์บางรายยังคงมองว่า ราคา Bitcoin อาจจะประสบกับความผันผวนในระยะสั้น พวกเขาคาดการณ์ว่า Bitcoin อาจลดลงไปแตะระดับใกล้ 70,000 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มต้นการเติบโตในรอบใหม่
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ราคา Bitcoin ได้ปรับตัวขึ้นไปถึงเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล 20 วัน (20-day EMA) ที่ระดับ 92,366 ดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการซื้อเข้าอย่างหนักในช่วงที่ราคาต่ำกว่านี้ ผู้ขายมักจะพยายามหยุดการฟื้นตัวที่ระดับ 20-day EMA หากราคาไม่สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้และปรับตัวลง คู่เทรด BTC/USDT อาจจะลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 85,000 ดอลลาร์

หากราคาสามารถฟื้นตัวจากระดับ 85,000 ดอลลาร์ได้ คู่เทรดอาจจะปรับตัวขึ้นทะลุ 20-day EMA และมีโอกาสเพิ่มขึ้นไปถึงเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบพื้นฐาน 50 วัน (50-day SMA) ที่ 97,704 ดอลลาร์ ความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้จะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าราคาอาจจะผ่านจุดต่ำสุดในระยะสั้นไปแล้ว
บนกราฟระยะเวลา 4 ชั่วโมง จะเห็นว่า 20-EMA เริ่มปรับตัวขึ้น และดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ได้พุ่งเข้าสู่โซนภาวะซื้อมากเกินไป (overbought zone) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงซื้อกำลังกลับมาอีกครั้ง หากราคายังคงยืนเหนือ $90,000 ได้ คู่เทรดมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $96,000 และอาจไปต่อถึง $100,000

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อราคา Bitcoin ในระยะถัดไป
แม้ว่าการประกาศของ Trump และการที่ BlackRock เพิ่ม Bitcoin ETF เข้าในพอร์ตจะเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญ แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อราคา Bitcoin ในระยะต่อไป เช่น สภาพคล่องในตลาด นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) และความผันผวนในตลาดการเงินโลก
นักลงทุนควรติดตามแนวรับสำคัญที่ 85,000 ดอลลาร์อย่างใกล้ชิด หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ โอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 100,000 ดอลลาร์ ก็มีความเป็นไปได้สูง
อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุดลงมาต่ำกว่า 83,000 ดอลลาร์ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าฝ่ายขายกำลังกลับมามีอิทธิพลในตลาด และราคาอาจจะลงไปทดสอบแนวรับสำคัญอีกระดับที่ 78,258 ดอลลาร์
นอกจากนี้ การติดตามปริมาณการซื้อขายและการเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่ (Whales) ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการเคลื่อนไหวของพวกเขาสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคา Bitcoin ในระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดกำลังมีความผันผวนสูง
BTC Bull Token โอกาสการลงทุนหลังราคา BTC พุ่ง
การประกาศของประธานาธิบดี Trump ไม่เพียงส่งผลดีต่อ Bitcoin เท่านั้น แต่ยังสร้างโอกาสให้กับเหรียญคริปโตอื่นๆ ที่ไม่ได้ถูกเลือกเข้าคลังสำรองเชิงกลยุทธ์ด้วย โดยเฉพาะเหรียญที่มีความเกี่ยวข้องกับ Bitcoin หรือได้รับประโยชน์จากการเติบโตของ Bitcoin เช่น BTC Bull Token ($BTCBULL) ซึ่งเป็นเหรียญใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดและมีกลไกพิเศษที่เชื่อมโยงกับการเติบโตของราคา Bitcoin โดยตรง
BTC Bull Token ได้ออกแบบระบบให้มีการเผาเหรียญโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 25,000 ดอลลาร์ กลไกนี้ช่วยลดปริมาณเหรียญในระบบและสนับสนุนการเติบโตของราคาในระยะยาว นอกจากนี้ ผู้ถือเหรียญ BTCBULL ยังสามารถนำเหรียญไปทำ Staking เพื่อรับผลตอบแทนสูงถึง 340% ต่อปี (อัตราผลตอบแทนจะค่อยๆ ลดลงตามจำนวนผู้เข้าร่วมการ Staking ที่เพิ่มขึ้น)
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลของ BTC Bull Token เพิ่มเติมได้จากเอกสารไวท์เปเปอร์ หรือ ติดตามข่าวสารล่าสุดผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการของ Bitcoin Bull ได้ทั้งบนแพลตฟอร์ม X และ Telegram
