
แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตอย่าง Bybit ได้ออกมาประกาศว่าสามารถฟื้นฟูเงินสำรองของตนเองได้สำเร็จ หลังจากเผชิญกับเหตุการณ์การถูกแฮ็กครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมคริปโต ด้วยความเสียหายมูลค่าราว 1.5 พันล้านดอลลาร์ จากรายงานของ CNBC ระบุว่า Bybit สามารถรวบรวม Ethereum ได้นับ “หลายแสนเหรียญ” ภายในเวลาไม่ถึง 72 ชั่วโมง โดยอาศัยการ “กู้ยืมฉุกเฉิน” และการ “ระดมเงินฝาก” จำนวนมากจากพันธมิตรหลากหลายเจ้า
Bybit เปิดเผยเหตุการณ์ช่องโหว่ระหว่างการโอนภายในระบบ
จากข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์แฮ็กครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการโอนสินทรัพย์ภายในระบบของ Bybit ซึ่งเป็นการย้ายเงินจาก “cold wallet” ที่มีความปลอดภัยสูง ไปยัง “warm wallet” ที่ถูกใช้งานสำหรับการซื้อขายแบบแอคทีฟ (active trading)
ในระหว่างการโอนดังกล่าว แฮ็กเกอร์ได้อาศัยช่องโหว่ในระบบเพื่อสกัดกั้นธุรกรรม และโอนเงินไปยังที่อยู่ที่ไม่สามารถระบุได้
Ben Zhou ซีอีโอของ Bybit ได้โพสต์ข้อความบน X เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน โดยยืนยันว่าแพลตฟอร์มยังคงมีสภาพคล่องเพียงพอ และสินทรัพย์ของลูกค้าถูกสำรองไว้อย่างเต็มจำนวน นอกจากนี้ การถอนเงินยังคงดำเนินการได้ตามปกติ
การฟื้นฟูครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย Bybit สามารถระดมอีเธอเรียมได้เกือบ 447,000 เหรียญ ผ่านความช่วยเหลือทางการเงินจากบริษัทต่าง ๆ เช่น Galaxy Digital, FalconX และ Wintermute
การตรวจสอบความโปร่งใสของเงินสำรองโดย Hacken ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ยืนยันว่า Bybit ได้ฟื้นฟูเงินสำรองสำเร็จ โดยสินทรัพย์หลักทั้งหมด เช่น Bitcoin (BTC), Ethereum, Solana (SOL), Tether (USDT) และ Circle (USDC) มีอัตราการสำรองเกิน 100% อย่างชัดเจน
ค่าหัว 10% สำหรับเงินที่ถูกขโมย
แม้ว่า Bybit จะฟื้นฟูเงินสำรองได้สำเร็จ แต่การติดตามเงินที่ถูกขโมยยังคงเป็นความท้าทายครั้งใหญ่
โดย Elliptic บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนได้ระบุว่า Lazarus Group ซึ่งเป็นกลุ่มแฮ็กเกอร์ชื่อดังจากเกาหลีเหนือ เป็นผู้กระทำการครั้งนี้
รายงานจาก CNBC ชี้ว่าเงินที่ถูกขโมยได้ถูกกระจายไปยัง 50 กระเป๋าเงิน โดยแต่ละกระเป๋ามี ETH ประมาณ 10,000 เหรียญ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฟอกเงิน
จนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา มีการระบุว่าเงินกว่า 195 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 14.5% ของทรัพย์สินทั้งหมดที่ถูกขโมย ได้ถูกโอนไปแล้ว
Arkham ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่าแฮ็กเกอร์ของ Bybit กำลังฟอกเงินอย่างต่อเนื่อง โดยทำธุรกรรมประมาณ 2-3 ครั้งต่อนาที และหยุดพักทุก ๆ 45 นาทีเป็นเวลา 15 นาที
เพื่อพยายามกู้คืนเงินที่ถูกขโมย Bybit ได้ตั้งค่าหัว 10% สำหรับผู้ที่สามารถช่วยนำเงินกลับมาได้
อย่างไรก็ตาม ประวัติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าโอกาสของการกู้คืนเงินสำเร็จนั้นต่ำมาก Lazarus Group มีชื่อเสียงเรื่องการฟอกคริปโตที่ถูกขโมยเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ และเชื่อกันว่าเงินที่ได้จากการแฮ็กถูกใช้สนับสนุนโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ในปี 2022 กลุ่มนี้เคยขโมยเงิน 600 ล้านดอลลาร์จากเกม Axie Infinity แต่มีเพียง 30 ล้านดอลลาร์เท่านั้นที่สามารถกู้คืนได้ แม้จะมีความพยายามจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลายฝ่ายก็ตาม
ผลกระทบต่อ ETH และตลาดคริปโต
เหตุการณ์แฮ็กครั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดคริปโต โดยเฉพาะอีเธอเรียมที่ราคาร่วงลงอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นหมากสำคัญของเหตุการณ์นี้ ราคาของ ETH ได้ลดลงประมาณ 10% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา โดยล่าสุดมีการซื้อขายที่ระดับต่ำกว่า 2,500 ดอลลาร์แล้ว

ขณะเดียวกัน ดัชนี Crypto Fear & Greed Index ก็ลดลงมาเหลือเพียง 25 (ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์)
เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลให้หลายคน ในขณะที่นักลงทุนจำนวนหนึ่งถอนเงินออกมาเนื่องจากกลัวว่าสินทรัพย์ของตนจะไม่ปลอดภัย หลายคนก็เริ่มมองหา Crypto Wallet ที่มีความปลอดภัยสูงสำหรับการเก็บสินทรัพย์
หนึ่งในตัวเลือกที่กำลังมาแรงขณะนี้ได้แก่ Best Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินคริปโตประเภท non-custodial ที่ใช้เทคโนโลยี Fireblocks MPC-CMP และมาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม
อ่านรีวิว Best Wallet เต็มๆ ได้ที่นี่
