Eric Jackson, CEO ของ EMJ Capital ได้สร้างกระแสให้กับวงการคริปโต หลังออกมาคาดการณ์แบบสุดโต่งว่า Bitcoin อาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 50 ล้านดอลลาร์ต่อเหรียญภายในปี 2041 คาดการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบไร้เหตุผล แต่เป็นผลจากการวิเคราะห์เชิงลึกที่มองว่า Bitcoin จะก้าวจากสถานะ “ทองคำดิจิทัล” ไปสู่การเป็น “แกนหลักประกันของระบบการเงินโลก” ในอนาคต
Eric Jackson (@ericjackson) expects bitcoin to hit $50 million by 2041.
He compares his thesis to how he knew Carvana, $CVNA, would be a 100-bagger stock pick. pic.twitter.com/CA9BWoR4zF
— Phil Rosen (@philrosenn) December 7, 2025
ในช่วงเวลาที่รายงานข่าว ราคา BTC ซื้อขายอยู่ที่ $91,574 ขณะเดียวกัน ราคา Bitcoin ที่พุ่งขึ้นล่าสุด ก็ได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยมหภาคหลายอย่างที่ช่วยเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน
วิเคราะห์มุมมอง ‘Hundred Bagger’: ทำไม Bitcoin ถึงมีศักยภาพเติบโตมหาศาล?
Jackson อธิบายกรอบความคิดการลงทุนแบบ “hundred bagger” ผ่านกรณีตัวอย่างของหุ้น Carvana ที่เคยร่วงจากราว 400 ดอลลาร์ เหลือเพียง 3.50 ดอลลาร์ในปี 2022 ท่ามกลางมุมมองเชิงลบที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุด
เขาระบุว่า “มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เจ็บปวดหรือมองโลกในแง่ร้ายสุดขีด คุณจะเห็นแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า” และนี่คือเหตุผลที่หลายคนมองข้ามศักยภาพในระยะยาวของสินทรัพย์บางประเภท
Jackson นำหลักคิดเดียวกันมาปรับใช้กับ Bitcoin โดยชี้ว่านักลงทุนจำนวนมากยังติดอยู่กับการเคลื่อนไหวของราคาในแต่ละวัน รวมถึงวาทกรรมสุดโต่งตั้งแต่ “Ponzi scheme” ไปจนถึง “เป้าราคาเพ้อฝัน” ทำให้ยากต่อการประเมินมูลค่าที่แท้จริง
สำหรับเขา การมองข้ามความผันผวนรายวันและโฟกัสที่โครงสร้างระยะยาวในอีก 15 ปีข้างหน้า คือหัวใจสำคัญของการประเมิน Bitcoin อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ หลักคิดเชิงระยะยาวยังใช้ได้กับการคัดเลือก เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในปี 2025 ซึ่งหลายโครงการอาจมีศักยภาพเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นกัน
Bitcoin จาก ‘ทองคำดิจิทัล’ สู่ ‘หลักประกันโลก’: วิสัยทัศน์ปี 2041
Jackson เริ่มต้นด้วยคำถามที่คุ้นเคยว่า Bitcoin จะมีมูลค่าเทียบเท่าตลาดทองคำได้หรือไม่ ซึ่งเขามองว่า “เป็นข้อสันนิษฐานที่ปลอดภัย” โดยเฉพาะเมื่อคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ที่ “เป็นดิจิทัล” และ “ตั้งโปรแกรมได้” มากกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างทองคำ
แต่สำหรับ Jackson จุดนี้ยังเป็นเพียง “บทแรกของเรื่องราว” เท่านั้น เพราะ Bitcoin ไม่ได้ถูกออกแบบให้เป็นสื่อกลางการชำระเงินในชีวิตประจำวันเสมอไป เหมือนกรณีของชายที่ใช้ BTC ซื้อพิซซ่าเมื่อปี 2011 ซึ่งมักถูกยกมาเป็นตัวอย่างจนทำให้หลายคนตีความผิด
จุดเปลี่ยนสำคัญคือเมื่อ Jackson เริ่มมอง Bitcoin เป็น “ชั้นหลักประกันของโลก” (global collateral layer) ที่มีศักยภาพเข้ามาแทนระบบ Eurodollar และหนี้สาธารณะในอนาคต เขาให้เหตุผลว่า Bitcoin เป็นหลักประกันที่ “เหนือกว่า” อย่างชัดเจน เพราะมันเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล, เป็นกลางทางการเมือง, และไม่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลหรือธนาคารกลางใดๆ
ด้วยขนาดอันมหาศาลของตลาดหนี้ทั่วโลก หาก Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์หลักประกันสำคัญ ราคาต่อเหรียญก็จำเป็นต้องขยับสูงขึ้นอย่างทวีคูณ ซึ่งเป็นที่มาของเป้าหมาย 50 ล้านดอลลาร์ในปี 2041 ที่หลายคนมองว่าสุดโต่ง แต่ Jackson เห็นว่าเป็นเหตุผลที่ตั้งอยู่บนตรรกะเชิงระบบการเงิน
ภาพวิสัยทัศน์นี้เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังจาก Bank of America เปิดให้ลงทุน Bitcoin ETF ซึ่งสะท้อนถึงการยอมรับ Bitcoin ในระดับสถาบันที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
Bitcoin Hyper: ตัวเร่งศักยภาพใหม่ท่ามกลางวิสัยทัศน์ Bitcoin แตะ 50 ล้านดอลลาร์
กระแสคาดการณ์ว่า Bitcoin อาจพุ่งแตะ 50 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2041 ทำให้เทคโนโลยีเสริมศักยภาพอย่าง Bitcoin Hyper ถูกจับตามองมากขึ้น เพราะหาก Bitcoin เติบโตระดับโครงสร้างจริง Layer-2 ที่เพิ่มความเร็วและเพิ่มฟังก์ชัน smart contract จะยิ่งได้รับอานิสงส์โดยตรงในฐานะโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของระบบใหม่ และนี่คือเหตุผลที่นักลงทุนเริ่มมองมันเหมือน “เหรียญมีมอนาคตไกล” แต่มีเทคโนโลยีรองรับจริงจัง

Bitcoin Hyper พัฒนาบนสถาปัตยกรรม SVM ที่ให้ความเร็วระดับ Solana พร้อมรักษาความปลอดภัยจาก Bitcoin ทำให้ธุรกรรมเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และรองรับ dApp ได้เต็มรูปแบบ จุดเด่นคือ canonical bridge ที่เชื่อม BTC บนเลเยอร์หลักเข้าสู่ Layer-2 แบบ trustless ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานจริงและสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับระบบนิเวศได้อย่างชัดเจน
โทเคโนมิกส์ของ $HYPER ยังออกแบบมาอย่างโปร่งใส โดยเน้นการกระจายให้คอมมูนิตี้เป็นหลัก พร้อม staking ผลตอบแทนสูงและบทบาทด้าน governance เมื่อ DAO เปิดใช้งานในปี 2026 นอกจากนี้ การรองรับนักพัฒนาและการมุ่งสร้างแอปพลิเคชันบน Bitcoin Hyper ช่วยให้โครงการมีศักยภาพเติบโตสู่ฐานผู้ใช้วงกว้าง ซึ่งต่างจากโปรเจกต์ทั่วไปที่ขาดรูปแบบการใช้งานจริง
สำหรับผู้ที่ติดตาม Bitcoin Hyper มาอย่างต่อเนื่อง อย่าลืมทบทวน บทวิเคราะห์ราคา Bitcoin Hyper หรือศึกษาวิธีซื้อ Bitcoin Hyper ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพื่ออัปเดตมุมมอง
ติดตามแผนงานและโรดแมปที่ เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper พร้อมรับมุมมองภาคสนามจาก X และ ช่อง Telegram
สรุปประเด็นสำคัญ
- CEO ของ EMJ Capital คาดการณ์ว่าราคา Bitcoin อาจพุ่งสูงถึง 50 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2041 โดยมองว่ามันจะกลายเป็นสินทรัพย์หลักประกันสำคัญของโลก
- มุมมองนี้อิงจากหลักการลงทุนแบบ “hundred bagger” ที่มองข้ามความผันผวนระยะสั้น เพื่อโฟกัสที่พื้นฐานและศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของสินทรัพย์อย่าง Bitcoin
- วิสัยทัศน์นี้มองว่า Bitcoin จะไม่ใช่แค่ “ทองคำดิจิทัล” แต่จะพัฒนาไปเป็น “ระดับชั้นหลักประกันของโลก” (global collateral layer) ที่เป็นกลางและไม่ถูกควบคุมโดยรัฐบาล
- ในขณะที่ Bitcoin ถูกมองเป็นสินทรัพย์หลักประกัน โปรเจกต์ Altcoin ใหม่ๆ ก็กำลังสร้างระบบนิเวศทางการเงินแบบกระจายศูนย์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน






