รายงานวิเคราะห์ล่าสุดจาก James Check และทีมวิจัยของ Unchained เปิดเผยทิศทางใหม่ของตลาด Bitcoin โดยชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จของกองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) และบทบาทสำคัญของตลาดออปชันที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนโครงสร้างการซื้อขายอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้ผู้ที่กำลังมองหา เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025 ได้ใช้ข้อมูลเชิงลึกจาก ETF และออปชันมาประกอบการตัดสินใจลงทุน
รายงานเริ่มต้นด้วยการอธิบายว่า ออปชันได้ก้าวขึ้นมาเป็นตราสารอนุพันธ์ที่มีปริมาณคงค้าง (Open Interest) สูงที่สุดในตลาดคริปโต มูลค่ารวมทะลุ 9 หมื่นล้านดอลลาร์ แซงหน้าฟิวเจอร์สที่อยู่ที่ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าตลาดกำลังให้ความสำคัญกับเครื่องมือบริหารความเสี่ยงมากขึ้น
We're extremely excited to release The Bitcoin Checkpoint Report by @_checkonchain in paretnership with @unchained
This 62-page PDF report explores how this Bitcoin cycle is measurably different, across numerous market verticals and sectors.
— _Checkmate 🟠🔑⚡☢️🛢️ (@_Checkmatey_) September 29, 2025
ความสำเร็จของ IBIT และการไหลเข้าของเงินทุน
ตั้งแต่การเปิดตัวในเดือนมกราคม 2024 IBIT สามารถดึงดูดเงินไหลเข้าสุทธิประมาณ 61,000 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลาเพียง 18 เดือน ส่งผลให้กลายเป็นหนึ่งใน ETF ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากตลาดเปิดให้ออปชัน ETF เริ่มซื้อขายในเดือนพฤศจิกายน 2024 กระแสความนิยมของ IBIT ก็พุ่งสูงขึ้นทันที โดยมียอดเงินไหลเข้าเพิ่มอีก 32,800 ล้านดอลลาร์ ขณะที่คู่แข่งรายอื่นยังคงแทบไม่ขยับ
เมื่อเปรียบเทียบกับ Fidelity’s FBTC ซึ่งเป็น ETF ใหญ่เป็นอันดับสอง พบว่าความต่างชัดเจนมาก โดยปริมาณออปชันของ FBTC มีเพียง 1.3 พันล้านดอลลาร์ เล็กกว่า IBIT ถึง 25 เท่า ข้อมูลนี้ชี้ว่าตลาดกำลังรวมศูนย์ไปที่ IBIT อย่างไม่ต้องสงสัย
ผลกระทบต่อตลาดออปชันและพฤติกรรมของนักลงทุน
ด้วยระดับกิจกรรมการซื้อขายดังกล่าว IBIT จึงถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Deribit แพลตฟอร์มซื้อขายออปชันคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีปริมาณซื้อขายต่อวันเฉลี่ยราว 4–5 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ รายงานยังอ้างอิงข้อมูล 13F filings ของกองทุนสถาบันในสหรัฐ ซึ่งบังคับให้ผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ต้องเปิดเผยพอร์ต ทำให้เห็นได้ชัดว่าสถาบันกำลังใช้ ETF และออปชันในการป้องกันความเสี่ยงและสร้างกลยุทธ์อาร์บิทราจ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ กลุ่มวาฬ HODLer เทขาย Bitcoin ทำกำไร หลังจากราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในรอบที่ผ่านมา สิ่งนี้สะท้อนว่าตลาดยังคงมีแรงกดดันจากฝั่งขายควบคู่ไปกับการเติบโตของผลิตภัณฑ์การลงทุนสถาบัน
โดยสรุป รายงานชี้ว่าความผันผวนของ Bitcoin ในรอบนี้ถูกปรับเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ จากบทบาทของ ETF และตลาดออปชันที่เข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ “การเปิดให้ออปชันซื้อขายควบคู่ไปกับ Spot ETF อาจเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างตลาด Bitcoin ที่สำคัญที่สุดแต่ยังไม่ถูกพูดถึงมากนัก” รายงานระบุ
สำหรับนักลงทุนทั่วไป ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงยุคใหม่ของตลาดคริปโต ที่ไม่ได้พึ่งพาการเก็งกำไรแบบเดิมอีกต่อไป แต่หันไปพึ่งพากลยุทธ์ซับซ้อนของตลาดทุนแทน
Best Wallet: กระเป๋าคริปโตที่ยกระดับการลงทุนด้วยความปลอดภัย
หลังจากรายงานล่าสุดเผยให้เห็นว่า IBIT กำลังครองความเป็นเจ้าตลาด Bitcoin ETF และตลาดออปชันเข้ามาเปลี่ยนโครงสร้างการลงทุน นักลงทุนเริ่มหันมามองหาโซลูชันที่ปลอดภัยและครบวงจรมากขึ้น Best Wallet จึงถูกยกให้เป็น กระเป๋าคริปโตที่ดีที่สุด ที่สามารถเชื่อมต่อกับ 60+ บล็อกเชน พร้อมระบบความปลอดภัยระดับสถาบันและฟีเจอร์ครบครันสำหรับทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน

ยิ่งไปกว่านั้น ท่ามกลางความผันผวนของ Bitcoin และการปรับกลยุทธ์ของสถาบัน Best Wallet ยังเปิดโอกาสการลงทุนล่วงหน้าผ่านฟีเจอร์ “Upcoming Tokens” ที่คัดสรรโปรเจ็กต์คุณภาพมาให้ผู้ใช้เข้าถึงก่อนใคร ทำให้ผู้ใช้งานไม่เพียงแค่เก็บรักษาสินทรัพย์ได้อย่างปลอดภัย แต่ยังมีสิทธิ์เข้าถึง เหรียญ Presale ที่น่าจับตา ซึ่งอาจสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิมใน ETF หรือฟิวเจอร์ส






