แม้ตลาดคริปโตโดยรวมจะเผชิญแรงเทขายอย่างหนักตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ข้อมูลล่าสุดจาก Glassnode กลับเผยสัญญาณที่น่าจับตา เมื่อ Bitcoin (BTC) ยังคงยืนหนึ่ง ทำผลงานได้ดีกว่าสินทรัพย์ดิจิทัลแทบทุกภาคส่วน
ปรากฏการณ์นี้สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังคงเลือก “พี่ใหญ่” ของตลาดเป็นที่พักเงิน ท่ามกลางบรรยากาศที่ความเสี่ยงยังปกคลุมตลาดคริปโตอย่างต่อเนื่อง
วิเคราะห์ Bitcoin แกร่งกว่าตลาด ท่ามกลางภาวะซบเซา
Glassnode แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล on-chain ชื่อดัง รายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยของภาคส่วนคริปโตเกือบทั้งหมดในช่วง 3 เดือนล่าสุด “ทำผลงานได้แย่กว่า Bitcoin” อย่างชัดเจน
แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนสภาพตลาดที่เงินทุนไหลไปกระจุกตัวอยู่ใน BTC มากขึ้น ขณะที่นักลงทุนลดความเสี่ยงจากสินทรัพย์ทางเลือกอื่น
Over the past 3 months, the average return across nearly all crypto sectors has underperformed Bitcoin.
This persistent relative weakness highlights a market environment where capital concentration favours BTC.📊 https://t.co/rFisuVfSY7 https://t.co/lpXqEe9bbW pic.twitter.com/WNtKEKclX7
— glassnode (@glassnode) December 16, 2025
หากดูตัวเลขจะเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น โดยราคา Bitcoin ปรับตัวลดลงราว 26% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวม (Total Market Cap) ลดลงถึง 27.5% ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
นั่นหมายความว่า BTC ยังคง “แข็งแกร่งกว่าเฉลี่ยของตลาด” เล็กน้อย แม้แรงกดดันจากปัจจัยมหภาคยังคงถาโถม โดยเฉพาะประเด็นนโยบายการเงิน ซึ่งขณะนี้ทิศทางราคา BTC ยังรอผลประชุม Fed ที่อาจเป็นตัวเร่งความผันผวนในระยะสั้น
เปิดตัวเลข Altcoin, Meme coin และ DeFi ใครเจ็บหนักสุด?
เมื่อมองไปยังภาคส่วนอื่น ภาพที่เห็นกลับยิ่งตอกย้ำความแข็งแกร่งของ Bitcoin โดยกลุ่ม Altcoin ได้รับผลกระทบหนักกว่าอย่างชัดเจน
Ethereum (ETH) เหรียญอันดับสองของตลาด ราคาร่วงลงถึง 36% ในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่กลุ่ม AI Token ดิ่งแรงถึง 48% และที่หนักที่สุดคือกลุ่ม Meme coin ซึ่งมูลค่าตลาดหายไปมากกว่า 56%
นอกจากนี้ กลุ่ม Real-World Asset (RWA) ปรับตัวลดลง 46% ส่วนโทเคนสาย DeFi ลดลงราว 38% ตามข้อมูลจาก CoinGecko
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนพฤติกรรมของนักลงทุนที่ทยอยถอนเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยงสูง และหันกลับมาหา Bitcoin ซึ่งถูกมองว่ามีเสถียรภาพมากกว่าในช่วงตลาดผันผวน
ทำไม Bitcoin ถึงเป็น “หลุมหลบภัย” ที่นักลงทุนเลือก?
Nick Ruck ผู้อำนวยการจาก LVRG Research มองว่าข้อมูลตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาบอกชัดเจนว่ากระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าสู่ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง
เขาระบุว่า นี่คือสัญญาณของ “ความพึงพอใจของนักลงทุนต่อเสถียรภาพของ BTC” ในช่วงที่ตลาดเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
Ruck เสริมว่า การกระจุกตัวของเงินทุนใน Bitcoin ยิ่งตอกย้ำสถานะผู้นำของเหรียญนี้ ขณะที่ Altcoin จำนวนมากต้องดิ้นรนเพื่อรักษาความน่าสนใจในสภาพตลาดปัจจุบัน
ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ประกอบกับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ Bitcoin ถูกมองเป็น “หลุมหลบภัย” (Safer Haven) ในโลกคริปโต และยังคงถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025
ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนจำนวนไม่น้อยจึงยังเชื่อว่า แม้ถือ BTC ในปริมาณไม่มาก ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความมั่งคั่งข้ามรุ่นด้วยการถือครอง Bitcoin ได้ในระยะยาว
Bitcoin Hyper ตัวเร่งศักยภาพใหม่ ท่ามกลางเงินทุนที่ไหลกลับสู่ Bitcoin
ท่ามกลางภาวะที่เงินทุนไหลกลับสู่ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยตามบทวิเคราะห์ล่าสุด การมาของ Bitcoin Hyper กลายเป็นตัวต่อสำคัญที่ช่วยขยายขีดความสามารถของ BTC จากแค่สินทรัพย์เก็บมูลค่า สู่การใช้งานจริงในโลก DeFi และ dApps

Bitcoin Hyper คือโซลูชัน Layer-2 ที่ผสาน Solana Virtual Machine เข้ากับความปลอดภัยของ Bitcoin ทำให้ธุรกรรมเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และรองรับ smart contracts ได้เต็มรูปแบบ ตอบโจทย์ข้อจำกัดเดิมของเครือข่าย Bitcoin อย่างตรงจุด
ด้วย presale ที่ระดมทุนแล้วกว่า 28.8 ล้านดอลลาร์ พร้อมกระแสความสนใจจากนักลงทุนรายใหญ่ Bitcoin Hyper จึงถูกจับตาในฐานะหนึ่งใน เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025 สำหรับผู้ที่มองหาโอกาสเติบโตบนโครงสร้างพื้นฐานของ Bitcoin ระยะยาว
หากคุณเตรียมเข้าลงทุนใน Bitcoin Hyper สามารถศึกษา บทวิเคราะห์ราคา Bitcoin Hyper หรือศึกษาวิธีซื้อ Bitcoin Hyper ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพื่อวางกลยุทธ์ที่เหมาะสม
สำรวจเนื้อหาเชิงกลยุทธ์ใน เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper พร้อมติดตามเสียงจากชุมชนบน X และ ช่อง Telegram
สรุปประเด็นสำคัญ (Key Take Away)
- ในช่วง 3 เดือนล่าสุด Bitcoin ปรับตัวลง 26% ซึ่งน้อยกว่า Altcoin ส่วนใหญ่ เช่น ETH (-36%), AI Token (-48%) และ Meme coin (-56%) อย่างชัดเจน
- เงินทุนในตลาดคริปโตมีแนวโน้มไหลไปกระจุกตัวที่ Bitcoin เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเป็น “หลุมหลบภัย” ที่มีเสถียรภาพและน่าเชื่อถือกว่าในภาวะตลาดขาลง
- ความแข็งแกร่งของ Bitcoin สะท้อนถึงความท้าทายของเหรียญ Altcoin ที่ต้องดิ้นรนเพื่อรักษาความน่าสนใจและสภาพคล่อง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดในปัจจุบัน






