สภาผ่านร่างกฎหมาย Big Beautiful Bill ของทรัมป์ จุดประกายให้ Bitcoin พุ่งรับวันชาติ

Trusted Editorial content, reviewed by leading industry experts and seasoned editors. Ad Disclosure

Big, Beautiful Bill ของทรัมป์ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว หลังจากผ่านความเห็นชอบของสภาคองเกรสสหรัฐฯ และส่งถึงโต๊ะประธานาธิบดีเรียบร้อย

ทำเนียบขาวโพสต์ประกาศข่าวนี้ผ่านแพลตฟอร์ม X โดยเฉลิมฉลองคลื่นแห่งการลดภาษีที่กำลังจะมาถึง พร้อมทั้งการขยายเพดานหนี้อีก 5 ล้านล้านดอลลาร์

เมื่อร่างกฎหมายสุดยิ่งใหญ่นี้ถูกปล่อยออกสู่โลก ความเปลี่ยนแปลงมากมายในภาคการเงินจึงกำลังจะเกิดขึ้น และที่สำคัญคือ การพุ่งขึ้นของ Bitcoin ที่รอคอยมานาน

ร่างกฎหมาย Big, Beautiful Bill ของทรัมป์จะเป็นเชื้อเพลิงให้ Bitcoin อย่างไร?

แล้วร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีผลเมื่อไหร่?

เมื่อทรัมป์ลงนามในวันนี้ นั่นหมายความว่าสายตาทุกคู่กำลังจับจ้องมาที่ Bitcoin ที่แรงพุ่งขึ้นและคาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววัน ว่าแต่ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เพราะเนื้อหาของร่างกฎหมายมีหลายจุดที่จะส่งผลดีต่อ Bitcoin และตลาดคริปโตโดยรวม:

• การยกเลิกเงินอุดหนุนพลังงานสะอาดของภาครัฐ ทำให้การแข่งขันกับนักขุดคริปโตลดลง
• การใช้จ่ายเกินงบและการคุมเข้มนโยบายการเงิน กดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นักลงทุนหันมาหาแหล่งเก็บมูลค่าอย่าง Bitcoin
• ระดับหนี้รัฐบาลที่สูงขึ้น ส่งผลต่อสภาพคล่องทั่วโลก ทำให้นักลงทุนหันมาใช้ Bitcoin เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ

แรงกดดันมหภาคแบบนี้เคยส่งผลบวกต่อ Bitcoin ในอดีต และดูเหมือนจะเกิดซ้ำอีกครั้งในตอนนี้

แน่นอนว่าไม่ได้มีแต่ด้านบวก เพราะในระยะยาว ร่างกฎหมายนี้อาจสร้างผลกระทบด้านลบเช่นกัน โดยเฉพาะในระยะสั้น กลุ่มผู้มีรายได้น้อยในสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการลดงบ Medicaid และบัตรอาหาร

สำนักงานงบประมาณสภาคองเกรส (CBO) ระบุว่า ผลกระทบระยะยาวอาจรุนแรงยิ่งกว่า โดยคาดว่าร่างกฎหมายนี้จะเพิ่มการขาดดุลงบประมาณถึง 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ใน 10 ปีข้างหน้า

นั่นเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อค่าใช้จ่ายสุทธิของรัฐบาลต่อปีในปี 2025 สูงกว่าปี 2017 ถึง 3 เท่า

โชคดีที่ Bitcoin อาจเป็นหนึ่งในทางออก เพราะในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ราคาของ $BTC เพิ่มขึ้น 1.49 เปอร์เซ็นต์ และขณะนี้อยู่เหนือ $109,000 แล้ว

และเมื่อ Bitcoin พุ่งแรง โครงการอื่น ๆ ก็มีแนวโน้มสดใสเช่นกัน โดยเฉพาะเหรียญใหม่ที่น่าจับตามองในปี 2025

นี่คือ 3 เหรียญที่อาจเติบโตได้ดี:

1. Snorter Token ($SNORT) – บอทสไนเปอร์ใน Telegram ที่ไล่ล่าเหรียญปัง ๆ แทนคุณ

Snorter Token ($SNORT) เป็นเหรียญที่อยู่ในช่วงพรีเซลโดยกำลังพัฒนา Snorter Bot บอท Telegram รูปตัวอาร์ดวาร์กที่พร้อมลุยตลาดแทนคุณเพื่อ “สอยเหรียญเด่นแบบทันที”

บอทตัวนี้มาเพื่อแก้ปัญหาการหาเหรียญด้วยตัวเอง ที่ทั้งลำบาก เสี่ยง และอาจเจอกับเหรียญหลอกลวง ทั้ง honeypot และ rug pull

Snorter Bot ทำงานใน Telegram เท่านั้น รวมศูนย์ทุกการใช้งานไว้ในแชตเดียว มันสามารถตรวจจับเหรียญต้องห้าม และส่งคำสั่งซื้อภายในไม่กี่มิลลิวินาทีเมื่อเหรียญมีสภาพคล่องเกิดขึ้น คุณจึงสามารถเข้าซื้อได้ตั้งแต่ราคาต้นน้ำ ก่อนเทรดเดอร์คนอื่นจะรู้ตัว ซึ่งอาจเพียงพอสำหรับกำไรก้อนโตที่คุณหวังไว้

โครงการเปิดพรีเซลมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 และระดมทุนได้แล้ว $1.5 ล้าน โดยราคาโทเค็นตอนนี้อยู่ที่ $0.0971 และยังมีฟีเจอร์ Staking พร้อม APY แบบไดนามิกสูงถึง 232%

ตามวิเคราะห์ของทีมงาน หากโปรเจกต์เดินหน้าตามแผน ราคา $SNORT อาจแตะ $0.94 หลังลิสต์ และไปถึง $3.25 ภายในปี 2030 ให้ผลตอบแทนถึง 3,247% หากลงทุนวันนี้

2. Bitcoin Hyper ($HYPER) – Layer 2 ของ Bitcoin ที่เร่งสปีดและลดค่าธรรมเนียม

Bitcoin Hyper ($HYPER) คือ Layer 2 ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาหลักของ Bitcoin:

• ความเร็วธุรกรรมต่ำ
• ความหน่วงสูง ทำให้เกิดคิว
• รองรับ ecosystem ได้น้อย
• ไม่รองรับ dApps และ smart contracts
• ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ DeFi ได้ดี

ขณะที่เชนใหม่อย่าง Base Chain วิ่งที่ 132.5 TPS นั่นคือความต่างกว่า 19 เท่า ซึ่ง Bitcoin ไม่อาจไล่ตามได้หากไม่มีตัวช่วย

Bitcoin Hyper แก้ปัญหานี้ด้วย 2 เครื่องมือ:

1. Canonical Bridge – สะพานที่นำเหรียญผู้ใช้ไปเก็บไว้ใน escrow และสร้างเหรียญเทียบเท่าใน Layer 2
2. Solana Virtual Machine (SVM) – ระบบที่ทำให้ smart contracts ทำงานได้แทบทันที

ทั้งหมดนี้ทำให้ Bitcoin Hyper เร็วขึ้นมาก ค่าเน็ตเวิร์กลดลง และธุรกรรมจบไว

$HYPER อยู่ในช่วงพรีเซลเช่นกัน และระดมทุนได้แล้ว $1.9 ล้าน ตั้งแต่เริ่มในเดือนพฤษภาคม 2025 โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ $0.012125 และคาดว่าจะขึ้นถึง $0.32 ภายในสิ้นปี 2025 และอาจไปถึง $1.5 ภายในปี 2030 ซึ่งแปลว่า ROI สูงสุดอาจแตะ 12,300 %

3. LOBO-THE-WOLF-PUP ($LOBO) – เหรียญมีมทางการของหมาป่ารุ่นใหม่

LOBO-THE-WOLF-PUP ($LOBO) คือเหรียญมีมที่เกิดจากการประมูล Runestone ด้วย 8 $BTC โดย Buoyant Capital ซึ่งทำให้มีการแจกจ่าย Runestone ไปยัง 112,000 วอลเล็ต

หลังการประมูล วันที่ 12 เมษายน 2025 ก็ได้มีการสร้าง Rune Doors เพื่อแจก $LOBO ให้แก่ผู้ถือ โดยมีวอลเล็ตที่ได้รับเหรียญมากกว่า 72,000 ราย

หลังจากนั้น $LOBO ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของ ecosystem “Wolf Pack” และตั้งใจจะเป็น “ขบวนการในระบบนิเวศ Bitcoin”

ตอนนี้ $LOBO กำลังมาแรง ด้วยการพุ่งขึ้น 230% ภายใน 7 วัน และมีคะแนนสนับสนุนจากชุมชนถึง 94%

ร่างกฎหมายสวยงามเป็นจุดเริ่มต้นของ Bitcoin Rally หรือไม่?

หากพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของ Bitcoin ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา และผลกระทบที่ร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีต่อเศรษฐกิจโดยรวม เราก็มีเหตุผลชัดเจนที่จะคาดว่า Rally ของ Bitcoin อาจเริ่มต้นในวันนี้

เพราะฉะนั้น จงจับตาชาร์ตราคาไว้ให้ดี และอย่ามองข้ามโปรเจกต์ใหม่อย่าง Snorter Token ($SNORT) และ Bitcoin Hyper ($HYPER) ที่อาจพุ่งทะลุกราฟในปี 2025

เข้าร่วมพรีเซล Snorter Token ด้วย Best Wallet

หากคุณกำลังมองหากระเป๋าเงินคริปโตที่ทั้งปลอดภัย ใช้งานง่าย และพร้อมลุยในตลาดพรีเซล Best Wallet คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม กระเป๋าเงินนี้ถูกออกแบบมาสำหรับนักลงทุนสายคริปโตที่ต้องการทั้งความรวดเร็วและความมั่นใจในการทำธุรกรรม รองรับโทเค็นหลากหลายเครือข่าย พร้อมฟีเจอร์สั่งซื้อในพรีเซลได้โดยตรงจากหน้ากระเป๋า ทำให้การเข้าร่วมโปรเจกต์ใหม่อย่าง Snorter Token เป็นเรื่องง่ายเพียงไม่กี่คลิก

ที่สำคัญ Best Wallet ยังให้คุณเชื่อมต่อกับบอท Telegram และแพลตฟอร์ม Web3 ได้อย่างลื่นไหล รองรับการสั่งซื้อโทเค็นก่อนใครผ่านการตั้งค่าล่วงหน้า ช่วยให้คุณจับจังหวะสำคัญในตลาดได้แบบเรียลไทม์ ไม่พลาดโอกาสทองในโปรเจกต์ที่มาแรงที่สุดแห่งปีอย่าง $SNORT ที่กำลังอยู่ในช่วงพรีเซลตอนนี้

จัดเก็บและซื้อขาย Snorter ได้อย่างปลอดภัยด้วย Bes Wallet

Best Wallet รองรับการถือครอง Snorter Token พร้อมระบบความปลอดภัยที่ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงในการใช้งานคริปโต และยังเชื่อมต่อกับบริการ DeFi ได้โดยตรง
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์และมาตรการความปลอดภัยจาก Best Wallet

Editorial Process for bitcoinist is centered on delivering thoroughly researched, accurate, and unbiased content. We uphold strict sourcing standards, and each page undergoes diligent review by our team of top technology experts and seasoned editors. This process ensures the integrity, relevance, and value of our content for our readers.