ในช่วงที่ผ่านมา ราคา Bitcoin (BTC) ได้ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 เดือน ทำให้นักลงทุนจำนวนมากต่างคาดเดาสาเหตุไปต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่นอนจากเหตุการณ์ US Government Shutdown หรือความกังวลเรื่องฟองสบู่ AI ที่อาจส่งผลกระทบมาถึงตลาดคริปโต อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ On-chain กลับมองต่างออกไป โดยชี้ว่าปัจจัยที่แท้จริงนั้นอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด และอาจเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นรอบใหม่ ขณะเดียวกัน การปรับตัวลดลงนี้ก็ถูกมองว่าเป็น โอกาสทองของนักสะสม Bitcoin ในระยะยาว เช่นกัน
ไขข้อข้องใจ! Bitcoin ร่วงไม่เกี่ยวกับ US Shutdown หรือฟองสบู่ AI
นักวิเคราะห์หลายคนได้ออกมาปฏิเสธทฤษฎีที่ว่าการปรับฐานของ Bitcoin เกี่ยวข้องกับปัจจัยมหภาคอย่าง US Shutdown หรือฟองสบู่ AI โดย Rational Root นักวิเคราะห์ On-chain ได้ให้สัมภาษณ์ผ่าน YouTube ว่า “ผมจะไม่โทษว่าการปรับตัวลงของ Bitcoin ทั้งหมดเกิดจากการ Shutdown ของรัฐบาลสหรัฐฯ” ซึ่งสวนทางกับความเห็นของ Victoria Scholar หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ Interactive Investor ที่มองว่าความกลัวฟองสบู่ AI ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin
ขณะเดียวกัน PlanB นักวิเคราะห์ชื่อดังอีกราย ก็ได้ออกมาปัดตกทฤษฎีฟองสบู่ AI เช่นกัน โดยโพสต์ผ่าน X ว่า “เราสามารถตัดทฤษฎีฟองสบู่ AI ออกจากรายการสาเหตุที่ Bitcoin ร่วงได้เลย” พร้อมชี้ไปที่ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ Nvidia ซึ่งประกาศรายได้ไตรมาส 3 สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 62% จากปีก่อนหน้า และสูงกว่าที่ Wall Street คาดการณ์ไว้ที่ 5.47 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งข้อมูลนี้ยิ่งตอกย้ำว่าความกังวลเรื่อง AI ไม่น่าใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ราคา Bitcoin ซึ่งปรับตัวลง 13.90% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
เจาะลึกสาเหตุที่แท้จริง: Leverage ในตลาดฟิวเจอร์สและสภาพคล่อง
เมื่อตัดปัจจัยภายนอกออกไป Rational Root ได้ชี้ให้เห็นถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าน่าจะมาจาก “ระดับ Leverage ในตลาดฟิวเจอร์สของ Bitcoin ที่สูงเกินไป” การที่มีผู้เล่นใช้ Leverage จำนวนมากในตลาดตราสารอนุพันธ์ ทำให้ตลาดมีความเปราะบางสูง เมื่อราคามีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงจึงเกิดการล้างพอร์ต (Liquidation) เป็นทอดๆ กดดันให้ราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างที่เห็น
นอกจากนี้ PlanC ยังเสริมว่าปัจจัยที่ยังคงเหลืออยู่คือ “เรื่องเล่าตามวัฏจักร 4 ปี (4-year cycle)” และ “สภาพคล่องทั่วโลกที่ล่าช้า (delayed global liquidity)” ประเด็นเรื่องสภาพคล่องนี้สอดคล้องกับความเห็นของ Jack Mallers, CEO ของ Strike ที่เคยกล่าวไว้ว่า “Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่อ่อนไหวต่อสภาพคล่องมากที่สุด มันเคลื่อนไหวก่อนเสมอ มันคือเครื่องจักรแห่งความจริง” ดังนั้น การชะลอตัวของสภาพคล่องในระบบการเงินโลกจึงอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin
The last time bitcoin was here, global liquidity was $7 trillion lower pic.twitter.com/MveSuWGWkS
— zerohedge (@zerohedge) November 18, 2025
วิเคราะห์อนาคต Bitcoin: สัญญาณ ‘รีเซ็ต’ สู่ขาขึ้นรอบใหม่?
แม้การปรับฐานจะดูน่ากังวล แต่นักวิเคราะห์ Rational Root กลับมองว่าเป็นเรื่องดี โดยกล่าวว่า Bitcoin ได้รับการ “รีเซ็ต” จนมีสถานะที่ “สะอาด” (clean slate) ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับการปรับตัวขึ้นในรอบต่อไป “ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาของตลาดกระทิง เราได้เห็นการรีเซ็ตแบบนี้มาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งเทียบได้กับระดับในตลาดหมีเลยทีเดียว” และเขายังเสริมอีกว่า “การรีเซ็ตแต่ละครั้งล้วนทำให้เราสามารถปรับตัวขึ้นไปได้สูงกว่าเดิม” โดยคาดว่าการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปจะเป็นไปในลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณทางเทคนิคที่น่าสนใจเกิดขึ้น เช่น การเกิด Backwardation ในตลาด Bitcoin ซึ่งอาจเป็นสัญญาณช้อนซื้อที่นักลงทุนกำลังจับตา
ในขณะเดียวกัน ประเด็นเรื่องวัฏจักร 4 ปีของ Bitcoin ก็กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง PlanC เชื่อว่าวัฏจักรดังกล่าว “มีความเป็นไปได้สูงที่จะพังทลายลง” สอดคล้องกับ Cory Klippsten, CEO ของ Swan Bitcoin ที่ให้ความเห็นว่า “มีโอกาสสูงมากที่วัฏจักรราคา 4 ปีอันโด่งดังของ Bitcoin จะจบสิ้นลงแล้ว โดยถูกทำลายจากการยอมรับของสถาบันการเงิน” ซึ่งบ่งบอกว่าตลาด Bitcoin กำลังมีพัฒนาการและอาจไม่ได้เคลื่อนไหวตามรูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ การมองหา เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในปี 2025 นอกเหนือจาก Bitcoin จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน
Bitcoin Hyper โดดเด่นท่ามกลางตลาดผันผวน—โอกาสใหม่หลัง Bitcoin ถูก “รีเซ็ต”
การปรับฐานของ Bitcoin รอบล่าสุดที่เกิดจาก Leverage สูงในตลาดฟิวเจอร์ส ทำให้นักวิเคราะห์มองว่านี่คือจุด “รีเซ็ต” ครั้งสำคัญของตลาดคริปโต ซึ่งสอดคล้องกับจังหวะการเติบโตของ Bitcoin Hyper (HYPER) —โปรเจกต์ Layer-2 ที่ระดมทุนกว่า $28 ล้าน ในช่วง Presale และกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่มองหาโอกาสใหม่ในช่วงตลาดสะอาดแบบนี้

การที่ตลาด Bitcoin ปรับตัวลดลงพร้อมความล่าช้าด้านสภาพคล่องทั่วโลก ทำให้ผู้เล่นเริ่มมองหาโปรเจกต์ที่สร้างคุณค่าเชิงเทคโนโลยีมากกว่าเดิม Bitcoin Hyper จึงโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม SVM + ZK-Rollup ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงของ Bitcoin ทั้งความเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และรองรับ dApps ซึ่งทำให้หลายคนเริ่มจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน เหรียญ Presale ที่น่าจับตา ในปี 2025
ด้วยโครงสร้าง Tokenomics แบบโปร่งใส รวมถึง APY Staking สูงกว่า 43% ที่เปิดให้ใช้งานตั้งแต่ Presale ทำให้ Bitcoin Hyper ถูกมองว่าอาจเป็นผู้ชนะรอบใหม่เมื่อสภาพคล่องกลับเข้าสู่ตลาด อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับเทรนด์การยอมรับ Bitcoin ระดับสถาบัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่นักวิเคราะห์เริ่มชี้ว่าอาจเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดรอบถัดไปมากกว่าวัฏจักร 4 ปีแบบเดิม
ถ้าคุณกำลังรวบรวมข้อมูล Bitcoin Hyper ขอแนะนำให้เริ่มที่ บทวิเคราะห์ราคา Bitcoin Hyper และอย่าลืมดูวิธีซื้อ Bitcoin Hyper ทีละขั้นตอน เพื่อจัดลำดับประเด็นสำคัญ
แวะไปดูรายละเอียดจาก เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper หรือพูดคุยกันต่อใน X และ ช่อง Telegram
สรุปประเด็นสำคัญ
- การปรับฐานของราคา Bitcoin ครั้งล่าสุดไม่ได้เกิดจากข่าว US Shutdown หรือความกังวลเรื่องฟองสบู่ AI แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่าเป็นผลจาก Leverage ในตลาดฟิวเจอร์สที่สูงเกินไป
- นักวิเคราะห์มองว่าการปรับฐานครั้งนี้เป็นการ “รีเซ็ต” ตลาดให้สะอาด ซึ่งในอดีตเคยเกิดขึ้นแล้ว 3 ครั้งและนำไปสู่การปรับตัวขึ้นของราคา Bitcoin ในที่สุด
- วัฏจักร 4 ปีของ Bitcoin อาจสิ้นสุดลงแล้ว โดยมีปัจจัยสำคัญจากการยอมรับของสถาบันการเงิน (Institutional Adoption) เข้ามามีบทบาทต่อทิศทางราคาในอนาคตมากขึ้น






