ความตื่นเต้นเกี่ยวกับกองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกาดูเหมือนจะเริ่มแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด โดยปริมาณการซื้อขายที่ลดลงและกระแสเงินทุนไหลเข้าที่หยุดชะงัก กำลังสร้างแรงกดดันต่อความคาดหวังด้านราคาของ Bitcoin (BTC) ทำให้นักลงทุนต่างจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาด
เจาะลึกสถานการณ์ Bitcoin ETF เงินทุนไหลออกอย่างหนัก
ในช่วงต้นเดือนตุลาคม ตลาดคริปโตยังคงมีบรรยากาศที่เป็นบวกอย่างมาก โดยมีเงินทุนจำนวนมากไหลเข้าสู่กองทุน Bitcoin ETF ทั้ง 11 แห่งในสหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับปรากฏการณ์ที่นักลงทุนหลายคนเรียกว่า “Uptober” ซึ่งอ้างอิงถึงข้อมูลในอดีตที่เดือนตุลาคมมักจะเป็นเดือนที่ดีสำหรับราคา Bitcoin
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปี 2025 กลับแตกต่างออกไป จากข้อมูลของ CoinGlass พบว่าในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 16 และ 17 ตุลาคม มีเงินทุนไหลออกจากกองทุน ETF อย่างมหาศาลถึง 4,800 BTC และ 3,390 BTC ตามลำดับ แม้ว่าในวันอังคารจะมีการซื้อกลับเข้ามา 4,320 BTC แต่ในวันถัดมาก็มีเงินไหลออกอีกเกือบ 1,000 BTC
เมื่อรวมยอดตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุน Bitcoin ในสหรัฐฯ มียอดขายสุทธิรวมประมาณ 8,050 BTC คิดเป็นมูลค่าความเสียหายราว 880 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาของ Bitcoin อย่างชัดเจน โดยในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาได้ปรับตัวลดลงไปแล้วกว่า 10%

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวสวนทางกับข้อมูลอีกด้านที่น่าสนใจ ซึ่งชี้ว่า สถาบันการเงินกำลังกว้านซื้อ Bitcoin มากกว่าที่ขุดได้ถึง 6 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในระยะยาวที่ยังคงแข็งแกร่ง
ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปัจจัยหลักฉุดรั้ง Bitcoin
ความระมัดระวังของนักลงทุนในขณะนี้มีสาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในช่วงปลายเดือนตุลาคม ประกอบกับสถานการณ์ Government Shutdown ที่ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งทำให้การเผยแพร่ข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักลง
หน่วยงานของรัฐบาล เช่น สำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) และสำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ (Bureau of Economic Analysis) ได้ระงับการดำเนินงานชั่วคราว ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างอัตราการว่างงานและตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ถูกเปิดเผยออกมา แม้จะมีข้อมูลบางส่วน เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกันยายน ที่ยังคงเผยแพร่ในวันที่ 24 ตุลาคม ขณะเดียวกัน ในฝั่งยุโรปกลับมีสัญญาณบวกที่น่าสนใจ เมื่อมีรายงานว่าบริษัทฟินเทคในเยอรมนีได้ทุ่มเงินซื้อ Bitcoin จำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค
การขาดข้อมูลที่ชัดเจนทำให้นักลงทุนไม่สามารถประเมินความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อมูล GDP ที่มีกำหนดประกาศในวันที่ 30 ตุลาคม นักลงทุนไม่ชอบความไม่แน่นอน และสถานการณ์นี้ได้สะท้อนออกมาในราคาแล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลที่อธิบายได้ว่าทำไมเงินทุนไหลเข้า ETF จึงหยุดชะงักลงกะทันหัน
วิเคราะห์แนวรับสำคัญของ Bitcoin ท่ามกลางความผันผวน
ในขณะที่เขียนบทความนี้ ราคา Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 109,309 ดอลลาร์ ซึ่งเข้าใกล้แนวรับสำคัญที่บริเวณ 108,000 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์นามว่า Ted Pillows ได้แสดงความเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X ว่าระดับราคานี้คือจุดตัดสินระหว่างฝั่งกระทิงและฝั่งหมี
Ted Pillows เตือนว่าหาก Bitcoin ไม่สามารถรักษาแนวรับนี้ไว้ได้ ราคาอาจร่วงลงไปทดสอบระดับ 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งหมายถึงการปรับฐานลงอีกประมาณ 9% จากราคาปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่มองในแง่ลบ
$BTC had a sharp rejection from the $113,500-$114,000 resistance zone.
Bitcoin is back towards the $108,000 support level, and this needs to hold strongly.
If BTC loses this level, expect a correction towards the $100,000 level. pic.twitter.com/VPyBq88pUg
— Ted (@TedPillows) October 22, 2025
Daink เทรดเดอร์อีกรายบนแพลตฟอร์ม X ได้ให้มุมมองที่ต่างออกไป โดยแนะนำว่า “ในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนครอบงำ สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำคือรอให้ความสับสนคลี่คลายและจับตาดูการเคลื่อนไหวในกรอบราคา” ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรอความชัดเจนก่อนตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ ด้วยความผันผวนของ Bitcoin ทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มมองหาโอกาสในสินทรัพย์อื่น ๆ ซึ่งการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในปี 2025 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกระจายความเสี่ยง
$BTC range 107.3k – 124.5k
In times where there's uncertainty the best thing to do is let the mess play out and look for the range
Any pullback to 107.3k is a long
Target:
116k
124.5k pic.twitter.com/vWz1DPTu9U— Daink (@TraderDaink) October 20, 2025
นอกจากนี้ สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูงและมองหาผลตอบแทนที่อาจเติบโตแบบก้าวกระโดด การพิจารณาเหรียญคริปโตต้นน้ำที่น่าจับตามองในปี 2025 ก็อาจเป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอนสูง
Bitcoin Hyper ทะยานสู่ Layer-2 ระดมทุน 24.6 ล้านดอลลาร์ใน 3 เดือน
Bitcoin Hyper (HYPER) โปรเจกต์ Layer-2 ของ Bitcoin ระดมทุนทะลุ 24.6 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 3 เดือน สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั่วโลก พัฒนาบน Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อยกระดับศักยภาพของ Bitcoin ให้รองรับ DeFi, dApps และ NFT ด้วยความเร็วหลายหมื่นธุรกรรมต่อวินาที และค่าธรรมเนียมเฉลี่ยต่ำกว่า 0.001 ดอลลาร์ ใช้ระบบ Zero-Knowledge Proof (ZKP) ยืนยันธุรกรรมกับ Layer-1 อย่างปลอดภัย

โปรเจกต์นี้ปลดล็อกข้อจำกัดของ Bitcoin ที่ทำได้เพียง 7 ธุรกรรมต่อวินาที เพิ่มความเร็วขึ้นหลายพันเท่าและลดค่าธรรมเนียมแทบเป็นศูนย์ รองรับการพัฒนาแอปผ่าน Rust SDK และ API ฟีเจอร์พร้อมใช้ เช่น Meme Coin Factory สำหรับสร้างโทเค็น, DeFi ที่ใช้ BTC เป็นหลักประกัน, Micropayment สำหรับธุรกรรมขนาดเล็ก และ GameFi/NFT ที่เชื่อมชุมชนจาก Solana เข้ากับ Bitcoin Layer-2
ระบบบริดจ์ของ Bitcoin Hyper ใช้ ZKP และ SPV เพื่อโอนสินทรัพย์ข้ามเครือข่ายได้ปลอดภัย BTC ที่ฝากจะถูกแปลงเป็น Wrapped BTC (WBTC) สำหรับใช้งานใน DeFi หรือ Meme Coin ก่อนเผาเพื่อนำกลับสู่ Layer-1 โทเค็น HYPER ใช้เป็นค่า Gas, รางวัล Staking และ Governance Token เพื่อกำหนดทิศทางเครือข่ายในอนาคต
ถ้าคุณต้องข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bitcoin Hyper สามารถอ่าน บทวิเคราะห์ราคา Bitcoin Hyper หรือศึกษาวิธีซื้อ Bitcoin Hyper ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพื่อประกอบการวิเคราะห์และการตัดสินใจด้วยตัวคุณเอง
ขยายการเรียนรู้ต่อจาก เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper และสื่อสารกับทีมงานผ่าน X และ ช่อง Telegram






