ในวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา Bitcoin ได้ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ที่ 109,333 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการฟื้นตัวอย่างน่าประทับใจถึง 22% จากการร่วงลงไปที่ระดับ 89,000 ดอลลาร์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ก่อน ความเคลื่อนไหวของราคาในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน แต่กลับกลายเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนหันกลับมาให้ความสนใจอีกครั้ง
Bitcoin ทำสถิติใหม่ก่อนการเข้ารับตำแหน่งของ Trump
ในช่วงเช้าของวันที่ Donald Trump เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ราคา Bitcoin ได้พุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 109,357 ดอลลาร์ ท่ามกลางความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อนโยบายสนับสนุนคริปโตของรัฐบาลชุดใหม่ อย่างไรก็ตาม ราคากลับปรับตัวลงมาอยู่ที่ประมาณ 102,800 ดอลลาร์หลังจากที่ Trump ไม่ได้กล่าวถึง Bitcoin ในสุนทรพจน์แรกของเขา
When you realise that Trump’s first executive order is not for a national Strategic #Bitcoin Reserve ….. 😂😂 pic.twitter.com/CV3fg6QfFZ
— ⚡₿itcoinTeddy⚡ (@Bitcoin_Teddy) January 20, 2025
หนึ่งในนโยบายสำคัญที่ Trump สัญญาไว้คือการสร้างคลังสำรอง Bitcoin เชิงกลยุทธ์ โดยจะให้กระทรวงการคลังดูแลผ่านกองทุนรักษาเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน ตามร่างคำสั่งผู้บริหารที่รั่วไหลออกมา รัฐบาลจะต้องถือ Bitcoin เป็นมูลค่าอย่างน้อย 21,000 ล้านดอลลาร์
Zack Shapiro ผู้บริหารจาก Bitcoin Policy Institute มองว่า การมีคลังสำรองแบบนี้จะช่วยให้ Bitcoin เป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากขึ้น และอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้ประเทศอื่นๆ ทำตาม ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญบางส่วนแสดงความกังวลว่าความผันผวนของราคาอาจทำให้ Bitcoin ไม่เหมาะที่จะเก็บเป็นสินทรัพย์สำรอง และอาจสร้างความเสี่ยงต่อเงินภาษีของประชาชน
วุฒิสมาชิก Cynthia Lummis จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นผู้เสนอกฎหมายให้รัฐบาลสะสม Bitcoin กล่าวว่าการถือครอง Bitcoin จะช่วยกระจายความเสี่ยงการลงทุนของรัฐบาล และเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่สินทรัพย์ดิจิทัลจะมีบทบาทมากขึ้น
ความเชื่อมโยงระหว่างการเมืองและคริปโต
การเข้ารับตำแหน่งของ Donald Trump ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สร้างความคาดหวังใหม่ให้กับวงการคริปโต โดยเฉพาะการที่เขาแสดงท่าทีสนับสนุน Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ผ่านแผนการสร้าง “Strategic Bitcoin Reserve” และการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตในตำแหน่งสำคัญ การเปลี่ยนแปลงนี้สามารถสร้างโอกาสให้สหรัฐฯ กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมคริปโตได้
แม้ว่าการปราศรัยครั้งแรกของ Trump จะไม่ได้พูดถึงคริปโตโดยตรง แต่การเคลื่อนไหวทางการเงินของเขา เช่น การซื้อ Altcoins ผ่านธนาคารของเขาเอง และการเปิดตัว Memecoins ของตัวเขาและภรรยาของเขาเอง ก็แสดงให้เห็นถึงความสนใจในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นสัญญาณบวกต่อแนวโน้มราคาของ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ
The Official Melania Meme is live!
You can buy $MELANIA now. https://t.co/8FXvlMBhVf
FUAfBo2jgks6gB4Z4LfZkqSZgzNucisEHqnNebaRxM1P pic.twitter.com/t2vYiahRn6
— MELANIA TRUMP (@MELANIATRUMP) January 19, 2025
ปัจจัยที่ผลักดันราคา Bitcoin ในช่วงที่ผ่านมา
ตั้งแต่การเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ราคา Bitcoin ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่ารัฐบาล Trump จะผลักดันนโยบายที่เป็นมิตรต่อภาคส่วนคริปโต นอกจากนี้ Trump ยังได้ให้คำมั่นว่าจะสร้างคลังสำรอง Bitcoin ของรัฐบาลและแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตในตำแหน่งสำคัญๆ
การที่ Trump เลือก David Sacks มาเป็นผู้ดูแลด้านคริปโต และให้ Bo Hines เป็นผู้อำนวยการสภาที่ปรึกษาด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ยิ่งตอกย้ำว่าเขาให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมนี้อย่างจริงจัง นักลงทุนมองว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของตลาดคริปโต
To the moon! 🚀🚀 #Bitcoin @WorldLibertyFi @saylor @DavidSacks pic.twitter.com/QTiHWiXckX
— Eric Trump (@EricTrump) January 20, 2025
ความเชื่อมั่นในตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ Trump เปลี่ยนท่าทีจากเดิมที่เคยวิจารณ์ Bitcoin ว่าเป็น “การหลอกลวง” มาเป็นผู้สนับสนุนอย่างเต็มตัว โดยเขาได้สัญญาว่าจะผลักดันให้สหรัฐฯ เป็น “เมืองหลวงแห่งคริปโต” ของโลก
นอกจากนี้ การที่ Trump เปิดธุรกิจคริปโตของตัวเองและมีแผนจะออกกฎหมายที่เอื้อต่อธุรกิจในวงการ ยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่าอุตสาหกรรมคริปโตจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลใหม่
การวิเคราะห์สถานการณ์ของ BTC ผ่าน Hyblock Heatmaps
ข้อมูลจากแผนที่ความร้อนการเทรด (Hyblock Heatmaps) แสดงให้เห็นว่า Bitcoin จะต้องรักษาราคาไว้เหนือระดับ 100,000 ดอลลาร์ เพื่อรักษาแนวโน้มขาขึ้นและเพื่อที่จะมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ถ้าราคาหลุดระดับ 91,000 ดอลลาร์ลงไป มันก็อาจจะเกิดการเทขายทำกำไรครั้งใหญ่ได้
Gm and happy Tuesday! ☕️
Bitcoin update & Hyblock Heatmaps
Very volatile days, and today it will continue in the same manner. Yesterday, the American markets were closed due to Martin Luther King Jr. Day, but today volume will pick up.
Trump didn’t mention… pic.twitter.com/HN2KpTp0Sr
— Columbus (@crypto_columbu) January 21, 2025
ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนยังคาดการณ์ว่า หลังจากกระแส Bitcoin และเหรียญที่เกี่ยวกับ Trump เริ่มเบาบางลง เงินลงทุนจะไหลไปยังเหรียญขนาดเล็กมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ราคายังนิ่งเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่สนใจแต่ Bitcoin และเหรียญยอดนิยมเท่านั้น
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าตลาดกำลังเข้าสู่ช่วง “Price Discovery” หรือ “การค้นหาระดับราคาใหม่” ซึ่งเป็นช่วงที่ราคายังไม่มีแนวต้านที่ชัดเจน ทำให้มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหากปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง
- แนวรับสำคัญ: ระดับ 100,000 ดอลลาร์และเส้นแนวโน้มหลัก (trendline)
- แนวต้านสำคัญ: 110,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่อาจจะสร้างแรงซื้อเพิ่มขึ้น
- สถานการณ์ที่ทำให้ตลาดขาขึ้นไม่เกิดขึ้น: หากราคาปิดต่ำกว่า 91,000 ดอลลาร์หรือ 89,000 ดอลลาร์ จะเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลง
วิธีการเตรียมตัวสำหรับตลาด Bitcoin: คำแนะนำและมุมมองอนาคต
นักลงทุนควรติดตามปัจจัยสำคัญที่อาจจะส่งผลต่อตลาด เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ การเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน และข้อมูลจาก Hyblock Heatmaps ที่ช่วยให้เห็นภาพรวมของแรงซื้อแรงขายในตลาด นอกจากนี้ การลงทุนใน Bitcoin ควรพิจารณาแนวโน้มระยะยาวและหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่เร่งด่วนจากความผันผวนในระยะสั้น
สำหรับผู้เริ่มต้นที่สนใจลงทุนใน Bitcoin การซื้อผ่านแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้อย่าง MEXC เป็นทางเลือกที่ง่ายและปลอดภัย ด้วยขั้นตอนดังนี้:
- สมัครบัญชี MEXC ผ่านเว็บไซต์ MEXC หรือ แอปมือถือ โดยใช้อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์
- ยืนยันตัวตน (KYC) โดยเลือกระดับ Primary หรือ Advanced และอัปโหลดเอกสารที่จำเป็น
- เติมเงินเข้าบัญชีผ่านระบบ P2P, บัตรเครดิต/เดบิต หรือโอนคริปโตมาจากกระเป๋าเงินอื่นq
- เข้าสู่เมนู Markets เลือกคู่เทรด BTC/USDT จากนั้น ระบุจำนวนที่ต้องการซื้อและกดยืนยันคำสั่งซื้อ
บทสรุป: นักลงทุนควรจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ตลาด Bitcoin กำลังอยู่ในช่วงที่น่าตื่นเต้นพร้อมกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้น การทะลุระดับสูงสุดใหม่ทำให้นักลงทุนมีความหวังต่อแนวโน้มที่จะเกิด Bull Run ครั้งใหญ่ในระยะเวลาอันใกล้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดและใช้เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ อย่างเช่น Hyblock Heatmaps เพื่อช่วยในการวางแผนการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ