
ในโลกการลงทุนคริปโตที่ผันผวน ปี 2025 ได้เผยให้เห็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ เมื่อกองทุน ETF ที่เดิมพันขาลงต่อ ETH กลายเป็นผู้ชนะตัวจริงของตลาด ท่ามกลางราคา Ethereum ที่ดิ่งลงเกือบ 51% ตั้งแต่เดือนมกราคม
กองทุน Proshares Ultrashort Ether ETF (ETHD) สร้างผลตอบแทนสูงถึงเกือบ 250% ส่วน T-REX 2X Inverse Ether Daily Target ETF อยู่ในอันดับ 2 ด้วยผลตอบแทน 220% ตอกย้ำว่ากลยุทธ์ Short ETH เป็นแนวทางการลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในสหรัฐอเมริกาในปีนี้
กลไกการทำงานของ ETF แบบ Leveraged Inverse ที่เดิมพันขาลงต่อ ETH
Proshares ETHD เป็นหนึ่งในกองทุนความเสี่ยงสูงที่ออกแบบมาให้สร้างผลตอบแทนเป็นสองเท่าของการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับดัชนี Bloomberg Ethereum Index ในแต่ละวัน นั่นหมายความว่าเมื่อราคา ETH ลดลง 1% กองทุนนี้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 2% ตามทฤษฎี ด้วยการดิ่งลงอย่างต่อเนื่องของ ETH ในปีนี้ จึงส่งผลให้มูลค่ากองทุนพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาล
The best performing ETF this year is the -2x Ether ETF $ETHD, up 247%. #2 is the other -2x Ether ETF. I was sure it would be $UVIX (2x VIX), but that’s #3. Brutal. pic.twitter.com/e49QOPtgmb
— Eric Balchunas (@EricBalchunas) April 9, 2025
ในขณะเดียวกัน T-REX 2X Inverse Ether Daily Target ETF ก็ทำงานในลักษณะคล้ายกัน แต่แตกต่างตรงที่เป็นการ short ราคา spot ETH โดยตรงแทนที่จะเป็นดัชนี Bloomberg ซึ่งทำให้กองทุนนี้กลายเป็น ETF ที่มีผลการดำเนินงานดีเป็นอันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกาในปีนี้ นักวิเคราะห์ Bloomberg ETF Eric Balchunas ถึงกับเรียกสถานการณ์นี้ว่า “โหดร้าย” สำหรับนักลงทุนในตลาด ETH
กองทุนเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากกลไก leverage ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยขยายผลกำไรหรือขาดทุน ทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาลในภาวะตลาดขาลง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงก็สูงตามไปด้วย หากตลาด ETH กลับตัวขึ้น ผู้ลงทุนในกองทุนเหล่านี้อาจประสบกับการขาดทุนอย่างรวดเร็วและรุนแรงเช่นกัน)
บทเรียนสำคัญจากความสำเร็จของกองทุน Short ETH ในปี 2025
ความสำเร็จของกองทุน Short ETH ในปีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลาย โดยเฉพาะในตลาดคริปโตที่มีความผันผวนสูง ในขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่มักมองหาโอกาสในตลาดขาขึ้น แต่ตลาดขาลงก็สามารถสร้างโอกาสทำกำไรได้มหาศาลเช่นกัน หากมีเครื่องมือและความเข้าใจที่เหมาะสม
ประเด็นสำคัญอีกประการคือ ความสัมพันธ์ระหว่างตลาดคริปโตกับเครื่องมือทางการเงินแบบดั้งเดิม เช่น ETF ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนมีทางเลือกมากขึ้นในการเข้าถึงตลาดคริปโตโดยไม่ต้องซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง นี่เป็นการเปิดประตูให้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยที่อาจไม่คุ้นเคยกับการซื้อขายคริปโตโดยตรงได้เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดมากขึ้น
ความผันผวนของ ETH ในปีนี้และความสำเร็จของกองทุน Short ETH ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลในกระเป๋าเงินที่ปลอดภัย อย่างเช่น Best Wallet ที่เพิ่งอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 2.5.1 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งได้เพิ่มการรองรับ Bitcoin อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้กลายเป็นแพลตฟอร์ม Multi-chain อย่างแท้จริง เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ Best Wallet ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงโครงการคริปโตล่าสุดได้ด้วยฟีเจอร์ Upcoming Tokens ที่จะคัดกรองเหรียญคริปโตใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาให้ผู้ใช้งานได้ลงทุนเพื่อรับผลกำไรมหาศาลก่อนใคร
ผู้ใช้งานที่ถือโทเค็น $BEST ยังจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าธรรมเนียมการใช้งานบริการต่างๆ หรือ ใช้ Staking เพื่อสร้าง Passive Income เพิ่มเติม เป็นต้น
