
เมื่อ BlackRock บริษัทบริหารสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของโลกเข้าสู่ตลาดคริปโตอย่างเต็มตัวในปี 2025 มุมมองของพวกเขาต่อการเปรียบเทียบระหว่าง Bitcoin Vs. Ethereum กลายเป็นประเด็นร้อนที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ
Samara Cohen ตำแหน่ง Senior Managing Director และ Chief Investment Officer ของแผนก ETF and Index Investments ที่ BlackRock ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกผ่านการให้สัมภาษณ์ล่าสุด ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำทั้ง 2 ตัวนี้ โดยเฉพาะในแง่ของความต้องการจากนักลงทุนสถาบัน
BlackRock มองเห็นอะไรใน Bitcoin ที่ Ethereum ยังไม่มี?
การเปิดตัว iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในกลยุทธ์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท Cohen ได้เน้นย้ำว่าการตัดสินใจลงทุนใน Bitcoin เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งด้านทฤษฎีการลงทุน ความต้องการของลูกค้า โครงสร้างตลาด และบริบทด้านกฎระเบียบ
ก่อนหน้านี้ BlackRock ได้เปิดตัวกองทุน Bitcoin สำหรับลูกค้าสถาบันในปี 2022 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญภายในองค์กรที่ทำให้พวกเขาเริ่มคุ้นเคยกับกระบวนการทำงานและการบริหารความเสี่ยงในสินทรัพย์คริปโต การทดลองนี้เป็นรากฐานสำคัญก่อนที่จะขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์ ETF สำหรับนักลงทุนทั่วไป
ความต้องการใน Bitcoin นั้นมีทั้งกว้างและลึกกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้ IBIT ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ ETF ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดย Cohen ระบุว่าประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ถือ IBIT ในปัจจุบันเป็นนักลงทุนรายย่อย และสำหรับ 3/4 ของกลุ่มนี้ พวกเขาได้เปิดบัญชีโบรกเกอร์เพื่อซื้อ ETP เป็นครั้งแรกเพราะต้องการถือ Bitcoin ในรูปแบบ ETF
ในทางตรงกันข้าม Ethereum ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับ 2 ที่ห่างไกลในสายตาของนักลงทุนสถาบัน Cohen ได้แสดงท่าทีที่ระมัดระวังมากขึ้นเมื่อพูดถึง Ethereum ต่างจาก Bitcoin ที่ได้รับการมองว่าเป็นที่เก็บมูลค่าและสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยง ทฤษฎีการลงทุนใน Ethereum ยังไม่ชัดเจนในระดับสถาบัน
BTC Bull Token: โอกาสใหม่สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเติบโตไปพร้อมกับ Bitcoin
ในขณะที่สถาบันการเงินใหญ่ๆ เริ่มหันมายอมรับ Bitcoin มากขึ้น นักลงทุนรายย่อยสามารถมองหาทางเลือกที่น่าสนใจอย่าง BTC Bull Token ($BTCBULL) ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตที่ออกแบบมาเพื่อเติบโตควบคู่ไปกับราคาของ Bitcoin โดยตรง
BTC Bull Token มีระบบการทำงานที่เชื่อมโยงโดยตรงกับการเติบโตของ Bitcoin ด้วยกลไกการเผาเหรียญอัตโนมัติทุกครั้งที่ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 25,000 ดอลลาร์ ซึ่งช่วยลดปริมาณเหรียญในระบบและสนับสนุนการเติบโตของราคาในระยะยาว นอกจากนี้ ยังมีการแจก BTC แอร์ดรอปเมื่อราคา Bitcoin ทะลุระดับสำคัญต่างๆ เช่น 150,000 ดอลลาร์ และ 200,000 ดอลลาร์
ปัจจุบัน BTC Bull Token อยู่ในช่วงพรีเซลที่ราคาเพียง 0.002405 ดอลลาร์ต่อเหรียญ โดยได้ระดมทุนไปแล้วกว่า 5.1 ล้านดอลลาร์์ นักลงทุนที่เข้าร่วมสามารถนำเหรียญไป Staking เพื่อรับผลตอบแทนสูงที่ปัจจุบันอยู่ที่ 79% ต่อปี (อัตราจะปรับลดลงตามจำนวนผู้ทำ Staking ที่เพิ่มขึ้น)
แตกต่างจากมีมโทเค็นทั่วไปที่เน้นการเก็งกำไรระยะสั้น BTC Bull Token มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าในระยะยาวผ่านระบบการให้รางวัลที่เป็นรูปธรรม ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเติบโตไปพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของมูลค่า Bitcoin ในอนาคต
สำหรับผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BTC Bull Token ได้จากไวท์เปเปอร์ของโครงการ หรือติดตามข่าวสารล่าสุดผ่านช่องทางการสื่อสารอย่างเป็นทางการทั้งบนแพลตฟอร์ม X และกลุ่ม Telegram เพื่อไม่พลาดโอกาสในการเข้าร่วมพรีเซลก่อนที่ราคาจะปรับขึ้นในครั้งต่อไป
