
Bitcoin (BTC) ทะลุ 117,000 ดอลลาร์ในวันพุธ หลังจาก Fed ประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% โดยก่อนหน้านี้ราคาเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 115,000 ดอลลาร์ ซึ่งนักลงทุนรอความชัดเจนจากผลประชุม FOMC
ขณะเดียวกัน Bitcoin Hyper (HYPER) ซึ่งเป็นโปรเจกต์ Layer-2 ที่ถูกพัฒนาให้เร็วที่สุดบนเครือข่าย Bitcoin กำลังได้รับความสนใจ โดยสามารถระดมทุน ICO ได้กว่า 16.8 ล้านดอลลาร์แล้ว
โครงการนี้ถูกมองว่าอาจกลายเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ของ BTC เนื่องจากสร้างระบบนิเวศที่เปิดทางให้ Bitcoin ถูกนำไปใช้ในแอปพลิเคชันจริง แทนการถือเก็บเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ HYPER ยังอยู่ในรอบพรีเซลที่ราคา 0.012945 ดอลลาร์ ก่อนจะขยับขึ้นสู่สเตจถัดๆ ไป
Fed ลดดอกเบี้ย นักลงทุนจับตา Bitcoin สร้างประโยชน์ใหม่
Fed ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ซึ่งตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้แล้วหลังตัวเลขเงินเฟ้อชะลอลงและมีแรงกดดันให้ผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยความเคลื่อนไหวนี้ทำให้นักลงทุนหันมาจับตาว่า BTC จะสามารถต่อยอดไปสู่การใช้งานรูปแบบใหม่ได้อย่างไร
🚨JUST ANNOUNCED: The Federal Reserve has just CUT RATES by 0.25%. Thanks, President Trump! #BullMarket
— AJ Huber (@Huberton) September 17, 2025
Fed Chair Jerome Powell: "Today, the Federal Open Market Committee decided to lower our policy interest rate by 1/4 percentage point."
THE GOLDEN AGE OF AMERICA BEGINS RIGHT… pic.twitter.com/2Y6HImPR4q
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ Fed ระบุว่าอาจมีการลดดอกเบี้ยเพิ่มอีก 2 ครั้งในปีนี้ ขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมา
ด้วยเหตุนี้ ตลาดคริปโตโดยรวมจึงปรับตัวขึ้น โดยราคา Bitcoin ทะลุ 117,000 ดอลลาร์ ขณะที่นักเทรดคาดว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอาจหนุนให้ราคาขยับสูงขึ้นอีก
ปัจจุบัน BTC อยู่ห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลเพียง 5.7% เท่านั้น และหากมีการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในไตรมาสสุดท้าย (ซึ่งมักเป็นช่วงที่ Bitcoin แข็งแกร่งที่สุดอยู่แล้ว) ก็อาจเป็นโอกาสให้ราคาทะลุระดับสูงใหม่ได้
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าการปรับตัวขึ้นอาจยาวนานกว่านี้ โดย Arthur Hayes ผู้ก่อตั้ง BitMEX เคยระบุว่า BTC อาจแตะ 200,000 ดอลลาร์ก่อนสิ้นปี และชี้ว่ารอบตลาดกระทิงยังไม่จบและอาจต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าเลยทีเดียว
🚨 THE BIG PRINTING HASN’T EVEN STARTED 👀@CryptoHayes believes this market could run well into 2026, with Trump expected to juice the economy by mid-2026.
— Kyle Chassé / DD🐸 (@kyle_chasse) September 12, 2025
He says politicians fear change, investors are underpricing the upside across assets, and we’re NOT at the end yet.… pic.twitter.com/N96Y7aRh0f
สำหรับ Hayes เขามองว่าสภาพคล่องที่เกิดจากการลดค่าของสกุลเงินจะไหลเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีมูลค่าอย่าง BTC ซึ่งช่วยยืนยันบทบาทของมันในฐานะที่เก็บมูลค่า
อย่างไรก็ตาม คำถามสำคัญคือการลดดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวจะเพียงพอให้ BTC ไปถึงเป้าหมาย 200,000 ดอลลาร์หรือไม่ หรือความต้องการเพิ่มเติมจากการใช้งาน Bitcoin ใน DeFi และแอปพลิเคชันอื่นๆ จะเข้ามามีบทบาทมากกว่า
ตรงนี้เองคือสิ่งที่ Bitcoin Hyper มุ่งสร้างประโยชน์ใหม่ให้ Bitcoin ซึ่งอาจช่วยหนุนเส้นทางราคาขึ้นไปอีก พร้อมเปิดโอกาสใหม่ในการใช้งานของตัวมันเอง
โครงสร้างของ Bitcoin Hyper
Bitcoin Hyper กำลังพัฒนาเป็น Layer-2 ที่เร็วที่สุดของ Bitcoin เพื่อทำให้เครือข่ายสามารถประมวลผลโปรแกรมได้ในระดับใหญ่ โดยใช้ Solana Virtual Machine (SVM) ซึ่งเป็นชั้นประมวลผลเดียวกับแอปพลิเคชันคริปโตที่เร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด ทำให้ผู้พัฒนาสามารถสร้าง dApps ประสิทธิภาพสูงด้วยภาษา Rust พร้อมเชื่อมต่อกับ Bitcoin ได้อย่างสมบูรณ์
การชำระเงินยังคงอิงกับ Bitcoin ผ่าน canonical bridge ซึ่งเป็นจุดเข้าเดียวของระบบ Hyper โดยผู้ใช้งานจะนำ BTC มาล็อกในสะพานนี้ ซึ่งสะพานจะสร้าง wrapped BTC ที่มีมูลค่าเทียบเท่ากันขึ้นมาใน Layer-2
การออกแบบนี้เป็นการรวมข้อดีทั้ง 2 ด้านเข้าด้วยกัน ได้แก่ dApps ทำงานด้วยความเร็วและประสิทธิภาพระดับ Solana ขณะเดียวกันความปลอดภัยสูงสุดและการชำระเงินยังคงยึดกับชั้นฐานของ Bitcoin ซึ่งเป็นบัญชีแยกประเภทที่กระจายอำนาจและไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้
ถ้า Bitcoin แตะ $200,000 แล้ว HYPER จะมีมูลค่าเท่าไหร่?
HYPER เป็นโทเค็นยูทิลิตี้ของเครือข่าย Bitcoin Hyper โดยทำหน้าที่เป็นค่าแก๊สในการทำธุรกรรม เสริมความปลอดภัยของเครือข่ายผ่านการสเตก และใช้เป็นโทเค็นสำหรับการกำกับดูแลอนาคตของ Layer-2
ทุก dApp, stablecoin, โปรโตคอลกู้ยืม หรือเกมที่รันบน Bitcoin Hyper จำเป็นต้องใช้ HYPER ทำให้มันเป็นสื่อกลางสำคัญของเศรษฐกิจโปรแกรมของ Bitcoin
ในรอบพรีเซล ปัจจุบัน HYPER ราคาที่ 0.012945 ดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่า Fully Diluted ประมาณ 272 ล้านดอลลาร์จากโทเค็นทั้งหมด 2.1 หมื่นล้านเหรียญ แม้จะดูเป็นตัวเลขใหญ่ แต่เทียบกับ Layer-2 อื่นๆ ถือว่ายังเล็กมาก เช่น Mantle (MNT) มีมูลค่าราว 5.5 พันล้านดอลลาร์, Arbitrum (ARB) 2.7 พันล้านดอลลาร์ และ Optimism (OP) 1.4 พันล้านดอลลาร์

เมื่อนำความเป็นไปได้ของราคาขาขึ้นของ Bitcoin มาพิจารณา หากเพียง 1% ของปริมาณ BTC ที่หมุนเวียนอยู่ ประมาณ 195,000 BTC ถูกโอนไปยัง Hyper ในราคาของ Bitcoin ที่ 200,000 ดอลลาร์ จะเท่ากับมีมูลค่าราว 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์หมุนเวียนภายในระบบนิเวศ
เมื่อเทียบกับมูลค่า HYPER ปัจจุบันที่ 272 ล้านดอลลาร์ จะสูงกว่ามูลค่าที่ล็อกไว้มากกว่า 140 เท่า แม้ HYPER จะสามารถครองเพียงสัดส่วนเล็กน้อยเทียบกับ Layer-2 ชั้นนำของ Ethereum แต่ผู้ซื้อรอบแรกๆ ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนหลายเท่าตัวเหนือราคาพรีเซล
วิธีเดียวที่จะเพิ่มโอกาสทำกำไรจาก HYPER ให้สูงสุด
วิธีเดียวที่จะไม่พลาดโอกาสคือการซื้อ HYPER ในช่วงพรีเซล เพราะตอนนี้ยังราคาถูกสไตล์เหรียญต้นน้ำอยู่ จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะถือก่อนที่เหรียญจะลิสต์บนตลาดหลักทรัพย์และดันมูลค่าให้สูงขึ้น
ผู้สนใจสามารถซื้อ HYPER ได้โดยตรงผ่านเว็บไซต์ของ HYPER ด้วย SOL, ETH, USDT, USDC, BNB หรือแม้แต่บัตรเครดิต
ทั้งนี้ ทีมงานแนะนำให้ใช้กระเป๋า Web3 เช่น Best Wallet ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกระเป๋าคริปโตและ Bitcoin ที่ดีที่สุด โดย HYPER อยู่ในหมวด “Upcoming Tokens” ทำให้ซื้อ ติดตาม และเคลมเหรียญได้ง่ายเมื่อเปิดใช้งานจริง
สามารถเข้าร่วมชุมชน HYPER ได้บน X และ Telegram เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดและอัปเดตต่างๆ
