
ราคาของ Bitcoin ยังคงทรงตัวและฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าเหล่าวาฬ (นักลงทุนรายใหญ่) จะเริ่มขายออก แต่กลับมีแรงซื้อที่แข็งแกร่งจากสถาบันการเงินและ Strategy ซึ่งยังคงสะสม BTC อย่างต่อเนื่อง คำถามคือ ราคาเหรียญจะทะยานขึ้นสู่ระดับ $120,000 ได้หรือไม่?
ราคา BTC ยังค่อนข้างเสถียรหลังจากผ่านการปรับฐานในสัปดาห์ก่อน แม้ว่าในวันศุกร์ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ซื้อ (ฝั่งกระทิง) ดูเหมือนจะต้องเผชิญกับแรงขาย (ฝั่งหมี) อย่างหนักจากตลาด แต่ในช่วงสุดสัปดาห์ แรงซื้อก็กลับมาอีกครั้ง ช่วยพยุงราคาให้นิ่งขึ้นก่อนที่ราคาจะเริ่มฟื้นตัวในวันที่ 26 พฤษภาคม
หากคุณต้องการเข้าใจความเสี่ยงของแรงเทขายและสัญญาณขาลงที่อาจเกิดขึ้น ลองอ่านบทความนี้ต่อในหัวข้อ Willy Woo เตือนระวังแรงเทขายทำกำไรในตลาด Bitcoin ปี 2025.
แม้ราคาจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ในระยะสั้น แต่เทรดเดอร์หลายคนยังคงรอดูสัญญาณที่ชัดเจนยิ่งขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนเพิ่ม โดยหลายคนคาดว่าราคาอาจจะพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงใหม่ในช่วงระหว่าง $112,200 ถึง $120,000 ซึ่งหากกลุ่มผู้ซื้อเดินหน้าผลักดันราคาจริง จังหวะนี้อาจทำให้มีมคอยน์บน Solana บางตัว ทะยานทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งเช่นกัน!

ทำไมวาฬถึงเริ่มขาย Bitcoin? เกิดอะไรขึ้น?
แม้ว่าตลาดจะยังดูเป็นบวก แต่รายงานจาก Glassnode ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มผู้ซื้อรายใหญ่ หรือ whales อาจจะยังรอจังหวะเพิ่มเติมอยู่ เพื่อดูว่าแนวโน้มราคาปัจจุบันจะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่
จากการวิเคราะห์ของ Glassnode พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในตลาด เมื่อกลุ่มวาฬเริ่มทยอยขายทำกำไรออกมา เพราะรายใหญ่เหล่านี้ถือว่าเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของราคาเหรียญ โดยเฉพาะหลังจากที่มีข่าวการอนุมัติ Bitcoin ETFs ไปในต้นปี 2024
ข้อมูลที่เผยแพร่บน X ระบุว่า วาฬที่ถือ BTC อย่างน้อย 10,000 เหรียญ ได้เปลี่ยนมาเป็นฝั่งขายสุทธิ โดยตัวเลข wallet flow metric อยู่ที่ประมาณ 0.3 เท่านั้น
As of May 26, the >10K $BTC cohort has pivoted to net distribution (~0.3), signaling a notable shift in positioning among the largest holders. Apart from that, accumulation remains broad, but leadership is shifting down the wallet size curve:
— glassnode (@glassnode) May 26, 2025
🔸>10K BTC: ~0.3 🔻
🔸1K–10K BTC:… pic.twitter.com/VxEy2LHcFE
ขณะเดียวกัน whales ที่ถือ BTC ระหว่าง 1,000 ถึง 10,000 เหรียญ ก็เริ่มลดการสะสมลงเช่นกัน โดย wallet flow metric ลดลงเหลือเพียง 0.8 ในขณะที่กลุ่มที่ถือ 100 ถึง 1,000 เหรียญ ก็ลดลงเหลือ 0.7
การลดลงของระดับการสะสมจากกลุ่ม whales ในทุกกลุ่มนี้ชี้ให้เห็นว่า แม้ราคาจะพุ่งขึ้นมาทำสถิติใหม่ แต่ momentum ของการขึ้นอาจเริ่มชะลอตัวลง เนื่องจากกลุ่มผู้เล่นรายใหญ่เริ่มขายทำกำไรและเตรียมการสำหรับการหมุนเวียนทุนใหม่ในตลาดนั่นเอง
สถาบันการเงินจะดันราคา BTC ถึง $120,000 ได้หรือไม่?
ในขณะที่ whales บางกลุ่มกำลังลดการถือครอง BTC ลง สถาบันการเงินกลับแสดงท่าทีตรงกันข้ามกัน โดยยังคงซื้อ BTC อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างแรงหนุนให้กับตลาด แถมยังช่วยเพิ่มความต้องการในตลาด Altcoin ทางอ้อมอีกด้วย
ข้อมูลล่าสุดจาก SosoValue ณ วันที่ 23 พฤษภาคม แสดงให้เห็นว่ามีการซื้อ Bitcoin ETF แบบ spot กว่า $211 ล้าน ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก BlackRock ในขณะเดียวกันผู้ให้บริการรายอื่น เช่น Fidelity และ Grayscale กลับมีเงินทุนไหลออก
การเข้ามาของสถาบันการเงินเหล่านี้ช่วยพยุงราคาของ BTC เพราะการซื้อบิทคอยน์ครั้งใหญ่เป็นการลดปริมาณ supply ในตลาด เพิ่มเสถียรภาพให้กับราคา และสร้างฐานราคาใหม่ที่แข็งแรง

หากการไหลเข้าของทุนยังคงดำเนินต่อไปในสัปดาห์นี้ ก็อาจช่วยหักล้างแรงขายจาก whales และผลักดันราคาให้สูงขึ้นกว่า $112,500 และอาจแตะระดับ $120,000 ได้ในที่สุด
นี่อาจเป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า short-term holders หรือผู้ถือครอง BTC ระยะสั้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นถึง 27% ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว short-term holders มักจะขายเมื่อมีผลกำไรเกิน 40% ซึ่งอาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดได้
The current unrealized profit indicator for Short-Term Holders holding coins for 1 to 3 months is 27%. Over the past 4 years, when this metric rose above 40%, the cohort began selling coins – this created strong price pressure.
— Axel 💎🙌 Adler Jr (@AxelAdlerJr) May 26, 2025
1. Current NUPL (Short-Term Holders, 1–3 m): 27%
2.… pic.twitter.com/izQAWOhhId
นักวิเคราะห์คนหนึ่งบน X คาดการณ์ว่าราคาของ BTC อาจพุ่งขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยมีโอกาสเกิดการ breakout ภายในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ซึ่งจะทำให้นักเก็งกำไรบางส่วนขายทำกำไร
อย่างไรก็ตาม หากสถาบันการเงินและ whales สามารถดูดซับแรงขายเหล่านี้ได้ ตลาดก็อาจจะสามารถหลีกเลี่ยงการปรับฐานครั้งใหญ่ และพาราคาขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ได้
สถานการณ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากเงินทุนใหม่ที่เข้าสู่ตลาด ซึ่งคล้ายกับช่วงเดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม 2024 โดยมี BTC กว่า 420,000 เหรียญ ซึ่งมีราคาต้นทุนเฉลี่ยราว ๆ $94,000 คอยเป็นโซนแนวรับที่แข็งแกร่ง ในกรณีที่เกิดการเทขายรุนแรง

ทุนใหม่และบทบาทของ Strategy สำคัญยังไง?
นอกจากนี้ Strategy ซึ่งเดิมคือ MicroStrategy ก็ช่วยเสริมความเชื่อมั่นในตลาดด้วยการเพิ่มการถือครอง BTC เรื่อยๆ โดยล่าสุดได้ซื้อ BTC เพิ่มอีก ซึ่งมีมูลค่า $427 ล้าน ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น $106,000 ต่อ BTC และถือครองรวมกว่า 580,250 BTC แล้ว!
หากแนวโน้มการสะสมของสถาบันการเงินและการไหลเข้าของทุนใหม่ยังคงดำเนินต่อไป ตลาด Bitcoin อาจสามารถผลักดันราคาไปสู่ระดับเป้าหมายที่ $120,000 ได้ในอนาคตอันใกล้
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! BTC Bull Token: เหรียญมีมที่มอบรางวัลเป็น BTC จริง

BTC Bull Token เป็นโปรเจกต์คริปโตที่น่าจับตาในปี 2025 โดยอิงกับตลาดบิทคอยน์ที่กำลังเข้าสู่ขาขึ้นครั้งใหญ่ ทั้งจากแรงซื้อของสถาบันและกฎระเบียบที่เริ่มชัดเจน โครงการนี้มีจุดเด่นคือการให้รางวัลแก่ผู้ถือโทเค็นด้วย BTC จริง เมื่อ BTC แตะเป้าหมายราคาที่กำหนด เช่น $150,000 และเพิ่มขึ้นทีละ $50,000
ด้วยโมเดลรางวัลที่จ่ายเป็น BTC จริง และส่งตรงเข้ากระเป๋าบิทคอยน์ (Best Wallet) ของนักลงทุน จึงช่วยสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในระยะยาว แถมล่าสุดยังสามารถระดมทุนได้ถึง 6.4 ล้านดอลลาร์แล้ว
นอกจากนี้ ข้อมูลในอดีตยังสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น เช่น การที่ Bitcoin เคยพุ่งเฉลี่ยรายเดือนสูงถึง 16.34% ในช่วงปลายปี 2023–ต้นปี 2024 ทำให้เป้าหมายราคาที่ดูสูงนี้อาจไม่ไกลเกินเอื้อม
แม้ราคาปัจจุบันจะทรงตัว แต่เงินทุนใหม่ยังคงไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง และขณะที่วาฬบางรายเริ่มขายออก ก็ถือเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนมือในตลาด และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการพุ่งสู่ระดับ $120,000 ในอนาคต นักลงทุนจึงควรจับตามองการเคลื่อนไหวของ BTC อย่างใกล้ชิดในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้
เรามุ่งมั่นในการสร้างความโปร่งใสอย่างเต็มที่กับผู้อ่านของเรา บางเนื้อหาในเว็บไซต์อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากความร่วมมือเหล่านี้
