
แม้ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีสายมีมจะเริ่มชะลอตัวลง แต่ Snorter Bot Token (SNORT) ซึ่งเป็นเหรียญที่ใช้ในบอตเทรดบน Telegram กลับสามารถระดมทุนผ่านการขายเหรียญล่วงหน้า (ICO) ได้แล้วกว่า 4 ล้านดอลลาร์
นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับโครงการนี้ เนื่องจาก Snorter กำลังพัฒนาเครื่องมือที่สามารถตรวจจับโอกาสการเทรดได้แม้ในช่วงตลาดผันผวน เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์รายย่อยสามารถทำกำไรได้ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
หัวใจสำคัญของระบบนี้คือโทเคน SNORT ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชันหลากหลาย โดยหนึ่งในจุดขายหลักคือการช่วยลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายเหลือเพียง 0.85% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม เพียงแค่ถือเหรียญไว้
ขณะนี้การขายเหรียญล่วงหน้าได้เดินทางมาถึงช่วงถัดไป โดยผู้ที่สนใจมีเวลาเพียง 24 ชั่วโมงสุดท้ายในการเข้าร่วมรอบปัจจุบัน ซึ่งราคาอยู่ที่ 0.1051 ดอลลาร์ต่อโทเคน
เมื่อรอบนี้สิ้นสุดลง ราคาจะถูกปรับขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ตัวโครงการก็ใกล้เข้าสู่ช่วงเปิดตัวเต็มรูปแบบ ทำให้เหลือโอกาสไม่มากสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่จะเข้าร่วมในราคาที่ต่ำกว่า
กระแสตอบรับจากตลาดยังสะท้อนให้เห็นว่า แม้กระแสเหรียญสายมีมจะเริ่มแผ่วลง แต่ความสนใจใน เหรียญคริปโตใหม่ๆ อย่าง SNORT ก็ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะเหรียญที่มาพร้อมกับฟังก์ชันใช้งานจริงและตอบโจทย์นักลงทุนสายเทรดอย่างแท้จริง
Bitcoin พักตัว เหรียญมีมย่อตัว รอเทรนด์ “Uptober”
ตลาดเหรียญมีมกลับเข้าสู่ภาวะซบเซาอีกครั้ง โดยมูลค่าตลาดรวมร่วงลงต่ำกว่า 80,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่เคยทะยานแตะใกล้ระดับ 90,000 ล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ก่อน
การซื้อขายในวันจันทร์เต็มไปด้วยแรงขาย โดยเฉพาะเหรียญมีมที่เชื่อมโยงกับธีม AI ซึ่งร่วงหนักที่สุดถึง 12.4% ตามมาด้วยเหรียญที่ได้รับการสนับสนุนโดย Murad Mahmudov ซึ่งลดลง 11.8% ตามข้อมูลจาก CoinGecko
ในบรรดาเหรียญมีม 10 อันดับแรก เหรียญที่ร่วงแรงที่สุดคือ PUMP โทเคนจากแพลตฟอร์ม Pump.fun บนบล็อกเชน Solana ซึ่งดิ่งลงถึง 19.3% ส่วนเหรียญ Pudgy Penguins (PENGU) ตามมาติดๆ ที่ -11.7% ขณะที่ MemeCore (M) บน Binance กลายเป็นข้อยกเว้นหนึ่งเดียว โดยสามารถปรับตัวขึ้นได้ 3.2% ท่ามกลางตลาดแดง จนยังคงเดินหน้าสร้างมูลค่าตลาดแตะ 1 พันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม ภาวะปรับฐานไม่ได้จำกัดอยู่แค่เหรียญมีมเท่านั้น ตลาดคริปโตในภาพรวมยังเผชิญแรงกดดันหลังบิตคอยน์ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 117,000 ดอลลาร์ได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และร่วงลงมาอยู่ที่ 112,000 ดอลลาร์ในขณะนี้ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนโดยรวมซบเซา แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะประกาศลดดอกเบี้ยไปเมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม
สำหรับนักเทรดจำนวนมาก ช่วงเวลาแบบนี้คือบททดสอบสำคัญว่า ควรอดทนผ่านฤดูกาลที่มักจะซบเซาเพื่อรอโอกาสในช่วง “Uptober” และ “Moonvember” ซึ่งในอดีตมักเป็นช่วงขาขึ้น หรือควรเลือกมองหาโอกาสใหม่ๆ แทน
หนึ่งในเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับสภาวะตลาดเช่นนี้คือ Snorter Bot Token ซึ่งสามารถสแกน mempool และคัดเลือกเหรียญมีมที่มีแนวโน้มเบรกเอาต์ ช่วยให้นักเทรดเปลี่ยนความผันผวน แม้ในวันที่ตลาดเป็นลบ ให้กลายเป็นโอกาสในการทำกำไร
Snorter Bot เครื่องมือลับจับเหรียญพุ่ง ก่อนเทรนด์มา
จุดแข็งของ Snorter Bot Token อยู่ที่ความสามารถในการตรวจจับเหรียญมีมที่กำลังจะพุ่งขึ้น ก่อนที่กระแสการเก็งกำไรจะเริ่มต้นอย่างเต็มตัว ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดรายย่อยสามารถเข้าไปเก็บของตั้งแต่ต้นน้ำ แทนที่จะกลายเป็นสภาพคล่องให้รายใหญ่ตอนปลายทาง
กลไกหลักของ Snorter ที่ช่วยสร้างความได้เปรียบคือระบบสแกน mempool บนเครือข่าย Solana และ Ethereum โดยตัวบอตจะเฝ้าติดตามธุรกรรมที่กำลังรอดำเนินการ และสามารถตรวจจับการเปิดตัวเหรียญใหม่ รวมถึงการเติมสภาพคล่องได้ทันทีที่เกิดขึ้น ซึ่งมักจะเร็วกว่าการแสดงข้อมูลบนแพลตฟอร์มอย่าง CoinGecko หรือกระดานเทรดต่างๆ
เมื่อรวมเข้ากับระบบสลับเหรียญที่ทำงานในระดับเสี้ยววินาที และฟีเจอร์ป้องกัน MEV (Maximal Extractable Value) ทำให้ Snorter สามารถดำเนินคำสั่งซื้อขายได้รวดเร็วกว่าเทรดบอตทั่วไป ส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าเทรดได้ตั้งแต่ราคาต้นน้ำ โดยไม่ถูกแทรกแซงจากวาฬ หรือกลยุทธ์โจมตีแบบ sandwich ที่มักเกิดในโลก DeFi นอกจากนี้ Snorter ยังเพิ่มชั้นความปลอดภัยด้วยระบบกรองธุรกรรมอัจฉริยะ เช่น การตรวจสอบระดับสภาพคล่อง, การยืนยันความถูกต้องของ smart contract และการป้องกันเหรียญหลอกลวง (honeypot)
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้นำหน้าเกมคือระบบ copy trading ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถตั้งค่าติดตามพอร์ตของเทรดเดอร์มืออาชีพที่มีผลงานจริงในอดีต และเข้าร่วมในดีลที่มีกำไรได้โดยไม่ต้องค้นหาเหรียญด้วยตัวเอง
ไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์ใด Snorter ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุนรายย่อยในการเข้าตลาดตั้งแต่เนิ่นๆ และเก็บกำไรก่อนที่เกมปล่อยของจากรายใหญ่จะเริ่มต้น
เปลี่ยนเกมเทรดมีม! Snorter ช่วยจัดการความเสี่ยงแบบออโต้
นักเทรดเหรียญมีมส่วนใหญ่มักขับเคลื่อนด้วยความกลัวว่าจะพลาดโอกาส (FOMO) ไล่ตามกระแสเมื่อสายไปแล้ว ติดอยู่ในวังวนของความคึกคักในโซเชียล และจบลงด้วยการลังเลกับทุกการตัดสินใจ Snorter Bot ถูกออกแบบมาเพื่อลบพฤติกรรมแบบนั้นโดยสิ้นเชิง
ด้วยระบบอัตโนมัติและตัวกรองที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า Snorter ช่วยลดความเครียดจากการต้องตัดสินใจในทุกจังหวะของตลาด ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องนั่งเฝ้ากราฟหรือส่องกลุ่ม Telegram ทั้งวัน เพราะบอตจะคอยแจ้งเตือนเมื่อพบโอกาสที่ผ่านเกณฑ์จริง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสภาพคล่อง การยืนยัน smart contract หรือการกรองความเสี่ยงจากโปรเจกต์หลอกลวง
สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการตามล่าหาเหรียญด้วยตนเอง ฟีเจอร์ copy trading ก็ช่วยให้สามารถติดตามพอร์ตของเทรดเดอร์มืออาชีพที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว โดยไม่ต้องเสียเวลาเดา หรือวิเคราะห์เอง
ผลลัพธ์คือการเปลี่ยนมุมมองในการเทรดโดยสิ้นเชิง: แทนที่จะคอยวิ่งตามตลาด ผู้ใช้งานสามารถวางกลยุทธ์รับมือกับเหรียญมีมได้อย่างเป็นระบบ ไม่ต้องตื่นตระหนกกับทวีตที่อ้างว่าจะพุ่ง 100x เพราะ Snorter ถูกตั้งค่าไว้ล่วงหน้าเพื่อให้เจอโอกาสก่อนใคร
Sleeping tight knowing that other projects build toys, but I’m forging the tools. pic.twitter.com/7kVtOnqCMa
— Snorter (@SnorterToken) September 17, 2025
จอง SNORT วันนี้! ก่อนจบช่วงพรีเซล
เหลือเวลาอีกเพียงไม่นานก่อนที่การขายล่วงหน้า (Presale) ของ Snorter Bot Token จะสิ้นสุดลง โดยผู้สนใจสามารถเข้าซื้อโทเคน SNORT ได้ทันทีผ่านเว็บไซต์ทางการของโครงการ โดยรองรับทั้ง SOL, ETH, BNB, USDT, USDC หรือแม้แต่การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต
ทีมพัฒนาแนะนำให้ใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบไม่ผ่านตัวกลาง (non-custodial wallet) ที่ได้รับการรับรองจาก WalletConnect เช่น Best Wallet ซึ่งได้รับความนิยมสูงและถือเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินที่มีฟีเจอร์รองรับทั้งคริปโตและบิตคอยน์อย่างครบถ้วน
ยอดโทเคนที่ซื้อในช่วงพรีเซลจะปรากฏในแอป Best Wallet โดยตรง พร้อมระบบเคลมโทเคนที่เรียบง่ายเมื่อตัวโทเคนเปิดเทรดอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ผู้ถือ SNORT ยังได้รับสิทธิ์เข้าถึงโปรเจกต์ใหม่ๆ ก่อนใครผ่านฟีเจอร์ “Upcoming Tokens” ภายในแอป
Best Wallet สามารถดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้งบน Google Play และ Apple App Store
ติดตามความเคลื่อนไหวของชุมชน Snorter ได้ผ่านช่องทาง X (Twitter) และ Instagram พร้อมศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการของโครงการ
